เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 4 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า  ตนได้นำ นางผ่องศรี  แซ่จึง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการจัดการระเบียบสายไฟฟ้า สายสื่อสาร และการบริหารจัดการไฟฟ้าส่องสว่างอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ และนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ  คณะอนุกรรมาธิการจัดระเบียบสายไฟฟ้า สายสื่อสาร และการบริหารจัดการไฟฟ้าส่องสว่างในเขตพื้นที่่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาการจัดระเบียบสายไฟฟ้า สายสื่อสาร และการบริหารจัดการไฟฟ้าส่องสว่างอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ เพื่อศึกษาดูงานเรื่อง "การพัฒนาการจัดระเบียบสายไฟฟ้า สายสื่อสาร ในเมืองใหญ่และเมืองเล็ก"  ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยได้นำคณะลงสำรวจพื้นที่ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมืองกันทรลักษ์  และได้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ตลอดทั้งผู้แทนภาคประชาชน  ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลเมืองกันทรลักษ์

นพ.จาตุรงค์  เพ็งนรพัฒน์  ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 4 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยต่อไปว่า  จากการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของทุกๆจังหวัดได้รับการร้องเรียนเรื่องสายไฟฟ้าและสายเคเบิลที่ทำให้เกิดปัญหาจึงได้เสนอญัตติให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งซึ่งเป็นคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวกับการจัดระเบียบสายไฟฟ้าสายเคเบิลให้ทั่วถึงทั้งประเทศ โดยมีท่านคณะกรรมาธิการคือ ท่าน ส.ส.ผ่องศรี  แซ่จึง และคณะอนุกรรมาธิการคือท่าน ส.ส.สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ นำคณะมาดูที่ อ.กันทรลักษ์  โดยในช่วงเช้าอยู่ที่เทศบาลเมืองศรีสะเกษ ตนขอนำเรียนพี่น้องประชาชนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เป็นเรื่องที่เป็นความเดือดร้อนของพี่ประชาชนทั่วทั้งประเทศ  โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากไทยเราได้มีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวไปแล้ว แต่จุดที่เป็นเมืองรองเช่นที่ อ.กันทรลักษ์ เป็นเมืองท่องเที่ยวเป็นเมืองชายแดน และเป็นเมืองที่มีการจัดกิจกรรมมากมาย  ตนจึงอยากให้มีการพัฒนาระบบสายไฟฟ้าจากสายไฟฟ้าที่อยู่บนเสาไฟฟ้ามีสายไฟฟ้า สายเคเบิล และมีสายต่างๆมากมาย ซึ่งอยู่บริเวณด้านล่างของสายไฟฟ้า ถ้าหากเกิดไฟไหม้หรือมีปัญหาเกี่ยวกับสายไฟฟ้า จะทำให้เกิดผลกระทบไปหมด  ตนจึงอยากให้ทำโครงการนำสายไฟฟ้าสายสื่อสารลงไปไว้ใต้ดิน โดยเริ่มจากบริเวณหน้าศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ ไปสิ้นสุดที่สำนักงานการไฟฟ้า อ.กันทรลักษ์ ระยะทางประมาณ 1.8 กม.และฝั่งตรงข้ามยาว 1.4  กม. เพื่อให้เกิดความปลอดภัย สวยงาม สร้างทัศนียภาพที่ดีต่อการท่องเที่ยวเมืองรองชายแดนปราสาทพระวิหาร ถ้ามีทั้ง  2โครงการนี้ขึ้นมา สามารถนำสายไฟฟ้าลงดินได้ทั้งหมด อ.กันทรลักษ์ จะเป็นเมืองตัวอย่างของระดับเทศบาลที่อยู่ในเขต อ.เมืองศรีสะเกษ และ อ.กันทรลักษ์ เพราะว่า อ.กันทรลักษ์ เป็นเมืองน่าอยู่ลำดับที่ 9 ของประเทศไทย  จึงได้นำเรียนคณะกรรมาธิการฝากนำไปเป็นข้อสังเกต เพื่อจะได้นำไปดำเนินการให้เป็นประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดความผาสุกแก่พี่น้องประชาชนชาว อ.กันทรลักษ์ ต่อไป