วันที่ 25 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้พบว่ามีแม่ค้า ขับรถจักรยานยนต์ บริเวณเบาะหลังท้ายรถ บรรทุกข้าวหลาม มาเต็มกระจาด ขับตระเวนออกขายตามท้องตลาด โดยมีประชาชนชาวบ้านเข้ามาซื้อกันเป็นจำนวนมาก จึงเข้าไปสอบถาม นางนุชนาถ (ติ๊ก) กระจ่างพงษ์ (แม่ค้าขายข้าวหลาม) เล่าว่า ข้าวหลามนี้ เป็นข้าวหลามสูตรโบราณ (ข้าวหลามย่าง) ตนเองได้ทำต่อมาจากยาย จากแม่ของตน “รุ่นสู่รุ่น” ซึ่งโตมาเห็นว่าแม่เคยทำ ตนจึงคิดที่จะมาทำต่อ ซึ่งข้าวหลามของตน เป็นข้าวหลามโบราณ รถชาดก็จะเหมือนกัน ซึ่งมีทั้งข้าวเหนียวขาว และข้าวเหนียวดำใส่ถั่วดำ ซึ่งจะไม่มีหน้าสังขยา หรือหน้าอื่น จึงเรียกว่าข้าวหลามสูตรโบราณ ซึ่งกรรมวิธีในการทำจะนานมาก ต้องมาเลื่อยกระบอกไม่ไผ่ แช่ข้าว กรอกข้าว กรอกกะทิ ย่างด้วยเตาถ่าน กว่าจะสุกก็ใช้เวลา กว่า 2 ชั่วโมงข้าวหลามถึงจะเริ่มสุกออกมาให้ทานได้ ส่วนในด้านเรื่องรถชาด จะเน้นเรื่องหวานมัน ซึ่งข้าวหลามถ้าหวานมัน เมื่อเวลาย่าง จะออกกลิ่นหอม หวาน มัน ชวนรับประทาน ซึ่งตนเองจะขายไม่แพง มีด้วยกันหลายราคา ตามแต่ขนาดของกระบอกข้าวหลาม กระบอกเล็กราคา 20-25 บาท กระบอกกลาง ราคา 30-35 บาทหรือ  กระบอก 100 บาทส่วนกระบอกใหญ่ ราคากระบอกละ 50 บาท โดยตนเองจะขับรถจักรยานยนต์ตระเวนขายไปตามแหล่งชุมชน ตอนนี้ลมหนาวเริ่มออกแล้วจะขายดีมาก ช่วงนี้ไม้ไผ่จะอ่อน ข้าวเหนียวใหม่ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้ตนและครัวมีรายได้ประจำ ซึ่งจะมีลูกค้าขาประจำมาซื้ออยู่บ่อยๆ 

นางนุชนาถ (ติ๊ก) กล่าวเสริมว่า ตนเองจะทำข้าวที่บ้านของตน ส่วนในด้านกรรมวิธีในการทำ จะนำลำไม้ไผ่ ซึ่งสั่งมาจาก กำแพงเพชร ซึ่งเป็นไม้ป่า ซึ่งจะมีเยื่อของลำไม้ เป็นไม้ที่ใช้ทำข้าวหลามโดยตรง มาเลื่อย เป็นท่อนๆไว้ แช่ข้าวเหนียวไว้ 6 ชั่วโมง จากนั้นนำมาคลุกเคล้า ด้วยถั่วดำ จากนั้นนำข้าวเหนียวกรอกใส่ กระบอกไม้ไผ่ แล้วจึงเทกะทิสดลงไป ปิดปากกระบอกด้วยใบตอง จากนั้นนำไปเผาไฟ ด้วยเตาถ่าน โดยใช้เวลาในการเผา 2 ชั่วโมงครึ่ง ข้าวหลามจึงจะสุกหอม จากนั้นจึงนำกระบอกข้าวหลามมาปลอกเปลือกไม้ไผ่ออก พร้อมที่จะนำไปขาย