"บิ๊กโจ๊ก" แถลง รวบองค์กรค้ามนุษย์ข้ามชาติ เงินหมุนนับพันล้าน ผู้ต้องหาเพียบ
7 ธ.ค. 2564, 18:42
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 7 ธค.64 ที่กองบังคับการ ตร.ภ.จว. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร., พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร., พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร., พล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข ผบช.ประจำ สง ผบ.ตร./หน.ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร.(TATIP) พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8/ผอ.ศพดส.ภ.8, พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผบช.ภ.๖, พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.๙, พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 / รอง ผอ.ศพดส.ภ.8 , พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.วิรุฬ สุวรรณวงศ์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร,ร่วมแถลงข่าว
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ ๖ ก.ย.๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๑๔.๔๐ น. เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.บ้านมาบอำมฤต จังหวัดชุมพร ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายเขมทัต ผาลี อายุ 36 ปี พร้อมด้วยคนต่างด้าวสัญชาติ เมียนมา (โรฮิงญา) ซึ่งโดยสารมากับรถตู้คันที่นายเขมทัตฯ ขับมา จำนวน 5 คน โดยกล่าวหาว่า ช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม และต่อมาเวลา ๑๖.๓๐ น. ของวันเดียวกัน เจ้าพนักงานตำรวจ ฯ ได้ร่วมกัน จับกุมตัว นายชัยชาญ ไม่ยาก อายุ 41 ปี และ นางสาวจุลลา บรรเทา อายุ 26 ปี พร้อมด้วยคนต่างด้าวสัญชาติ เมียนมาร์ (โรฮิงญา) ซึ่งโดยสารมากับรถตู้ที่นายชัยชาญฯ ขับมา จำนวน 6 คน โดยกล่าวหาว่า ช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม และในวันเดียวกัน เมื่อวันที่ 6 กันยายน ๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๑๙.๓๐ น. เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.เขานิพันธ์ ได้ร่วมกันจับกุมตัว Mr.Man Jo Min หรือนายฮู เซ็น อายุ 48 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ และชู อาลิน อายุ 18 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ โดยกล่าวหา รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม และได้ทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 59/7 ม.5 ต.คลองฉนวน อ.เวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตรวจพบคนต่างด้าวสัญชาติ เมียนมา (โรฮิงญา) หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 3 คน ในบ้านดังกล่าวซึ่งเป็นลักษณะกักขังตัวไว้ ซึ่งทั้ง 3 คดีดังกล่าว ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ได้ทำการคัดแยกเหยื่อผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์ และมีความเห็นว่าคดีดังกล่าวทั้ง 3 เรื่องนั้น เข้าข่ายกระทำความผิดฐาน ค้ามนุษย์
ตำรวจภูธรภาค ๘ โดย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.๘ ได้ออกคำสั่ง ภ.๘ ที่ ๓๙๐/๒๕๖๔ ลง ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๔ เรื่อง แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนขยายผลความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันปราบปรามการ ค้ามนุษย์ พ.ศ.๒๕๕๑ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.๘ เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวน และจากการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงทราบว่า ทั้ง ๓ คดีมีความเกี่ยวข้องกันมีผู้ร่วมกระทำผิดเป็นกระบวนการมีความสัมพันธ์กันเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และฟอกเงิน มีการกระทำผิดโดยแบ่งหน้าที่กันทำเริ่มจากจัดหาคนจากประเทศเมียนมาร์ ส่งเข้ามาในประเทศไทยช่องทางธรรมชาติ ที่บริเวณ อ.แม่สอด จว.ตาก แล้วมีกลุ่มคนที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว รับตัวเดินทางมาพักตามจุดต่างๆ ในประเทศไทย ที่กลุ่มผู้กระทำผิดได้เตรียมไว้ เช่น จังหวัดปทุมธานี กรุงเทพมหานคร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา นราธิวาส จนถึงประเทศมาเลเซีย มีการกักขังขู่เข็ญ ขูดรีด เพื่อเรียกเงินจากเหยื่อ และญาติ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายจึงได้ร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก ๔ คดี เมื่อ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
จากนั้นตำรวจภูธรภาค ๘ ได้มีคำสั่ง ภ.๘ ที่ ๔๑๓/๒๕๖๔ ลง ๑๔ พ.ย.๖๔ เรื่องแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน (คดี สภ.บ้านมาบอำมฤต ) และ คำสั่ง ภ.๘ ที่ ๔๒๖/๒๕๖๔ ลง ๒๕ พ.ย.๖๔ เรื่องแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน (คดี สภ.เขานิพันธ์) โดยมี พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.๘ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งจากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน คณะพนักงานสอบสวนได้ทำการขออนุมัติศาลให้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้นรวม ๔ คดี ๑๔ คน ๒๔ หมายจับ ดังนี้
สภ.บ้านมาบอำมฤต ๓ คดี ข้อหา ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และค้ามนุษย์ฯ จำนวน ๒ คดี คือคดีอาญาที่ ๔๑๕/๒๕๖๔ (๔ หมายจับ) ,๔๑๖/๒๕๖๔ (๔ หมายจับ) และ ข้อหา ฟอกเงิน คดีอาญาที่๔๑๗/๒๕๖๔ (๑๓ หมายจับ) สภ.เขานิพันธ์ ๑ คดี ข้อหา ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และค้ามนุษย์ คดีอาญาที่ ๓๗๑/๒๕๖๔ จำนวน ๓ หมายจับ
ต่อมาวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๔ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.๘ หัวหน้าฝ่ายสืบสวน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศพดส.ตร. และ ศพดส.ภ.๘ ได้ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหาในพื้นที่ ๔ จังหวัด คือ อ.แม่สอด จว.ตาก, อ.สุไหง-โกลก จว.นราธิวาส, อ.พระแสง จว.สุราษฎร์ธานี,อ.กะทู้ จว.ภูเก็ต และพื้นที่อื่นๆ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน ๗ คน ดังนี้
1.นายบำรุง วานิชคาม อายุ 70 ปี มีหมายจับ จำนวน ๒ หมายจับ
2.นายมูฮำหมัด ซูไบ๋ อายุ 50 ปี มีหมายจับ จำนวน ๒ หมายจับ
3.นายอ่อง โก อู อายุ 41 ปี มีหมายจับ จำนวน ๑ หมายจับ
4.นายกำพล ยอดแก้ว อายุ 65 ปี มีหมายจับ จำนวน ๑ หมายจับ
5.นายอานัส อูมา อายุ 28 ปี มีหมายจับ จำนวน ๑ หมายจับ
6.นายอาลี ลาลู อายุ 47 ปี มีหมายจับ จำนวน ๔ หมายจับ
7.นายมูฮัมหมัด มะแซ อายุ 31 ปี มีหมายจับ จำนวน ๑ หมายจับ
๘.นายสมพิศ เนียมเกิด มีหมายจับ จำนวน ๒ หมายจับ
และยังมีผู้ต้องหาที่ผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมจำนวน ๓ คน จะได้ติดตามจับกุมตัวต่อไป จากการสืบสวนเส้นทางการเงินพบว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า ๖๐๐ ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิด หรือได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายจากความผิดมูลฐาน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสาน สำนักงานป้องกันปราบปราม การฟอกเงิน เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป