บุกจับ ! "2 สามีภรรยา" พร้อมกัญชาอัดแท่ง 1,680 ก.ก. มูลค่า 50 ล้านบาท
10 ธ.ค. 2564, 08:37
วันที่ 9 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ของคืนวันที่ 8 ธ.ค. 64 พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้สั่งการไปยัง พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.ตากใบ โดยได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.สุริยา จอมสุริยะ สว.สส.สภ.ตากใบ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ตากใบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำกองกำกับการ 7 หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวจะมีการลำเลียงยาเสพติดไปยังประเทศมาเลเซียโดยทางเรือ
พ.ต.ต.สุริยา จอมสุริยะ สว.สส.สภ.ตากใบ จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่นั่งรถยนต์กระบะและขี่รถ จยย.ไปตรวจสอบบริเวณรายรอบๆของชายทะเลบ้านกูบู ม.6 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ พบรถยนต์เทรลเลอร์ 18 ล้อ ยี่ห้อ HINO สีแดง ซึ่งบรรทุกท่อนไม้ยูคาลิปตัส เต็มคันรถจอดอยู่ โดยมีนายสุภัทร คะทะวะรัตน์ อายุ 37 ปี และ น.ส.ช่อผกา อภัยสวัสดิ์ อายุ 24 ปี เป็นสามีภรรยากัน กำลังนั่งอยู่ในห้องโดยสาร เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น
พบที่บริเวณพ่วงท้ายมีพิรุธ จำนวน 2 จุด ซึ่งห่างกัน 3 เมตร โดยมีท่อนไม้ยูคาลิปตันปิดอำพรางไว้ โดยจุดที่ 1.เจ้าหน้าที่ได้นำท่อนไม้ยูคาลิปตัสออก พบของกลางเป็นกัญชาแห้งอัดแท่ง ห่อด้วยกระดาษฟลอยด์สีบรอนด์ทอง พันด้วยเทปใส บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยสีขาว และห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกทึบแสงสีดำอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 20 กระสอบๆละ 50 แท่ง น้ำหนัก 1,051 กิโลกรัม จุดที่ 2. เจ้าหน้าที่พบกัญชาแห้งอัดแท่ง บรรจุและห่อด้วยวัสดุแบบเดียวกันอีก จำนวน 14 กระสอบๆละ 44 แท่ง น้ำหนัก 629 กิโลกรัม ซึ่งทั้ง 2 จุดมีกัญชาอัดแท่งรวมทั้งสิ้น 1,680 กิโลกรัม ซึ่งถ้าสามารถเล็ดลอดไปยังประเทศมาเลเซียจะมีมูลค่า 50 ล้านบาท
โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนปากคำนายสุภัทร คะทะวะรัตน์ ในเบื้องต้น โดยให้การว่า ตนได้รับจ้างขับรถยนต์เทลเลอร์มาจาก จ.นครพนม เป็นครั้งแรกซึ่งได้ซุกซ่อนกัญชาอัดแท่งโดยมีท่อนไม้ยูคาลิปตัสปิดอำพรางไว้ ให้นำมาจอดที่ชายทะเลบ้านกูบู โดยจะมีคนมารับพร้อมขนย้ายลงเรือเพื่อส่งเข้าไปประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางพร้อมแจ้งดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันมีนาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชาแห้งอัดแท่ง ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
แต่ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนถึงเจ้าของรถยนต์เทรลเลอร์ 18 ล้อ ว่ามีส่วนรู้เห็นและเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลางหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะจับกุมดำเนินคดีต่อไป