เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ผู้ว่าฯสุรินทร์" แถลงความพร้อมจัดการแสดงของช้าง ปี 2564


14 ธ.ค. 2564, 11:38



"ผู้ว่าฯสุรินทร์" แถลงความพร้อมจัดการแสดงของช้าง ปี 2564




วันที่ 13 ธ.ค. 64 เวลา 14.30 น.ที่บริเวณลานวัฒนธรรม ศูนย์คชศึกษาบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม ท่าตูม จ.สุรินทร์ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในการแถลงข่าวแก่สื่อมวลชน ในการจัดงานแสดง ช้างจังหวัดสุรินทร์ ประจำปี พ.ศ.2564 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 61 โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว นากเหล่ากาชาดสุรินทร์ , ผู้บังคับการตำรวจภูธรสุรินทร์ ,รองนายก อบจ.สุรินทร์, ผู้แทนโครงการคชอาณาจักร องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ,ผอ.ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์, นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ,ผจก.แผนพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ,ผู้แทนมณฑลทหารบกที่ 25

นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในการจัดงานแสดงของ ช้างจังหวัด สุรินทร์ ประจำปี พ.ศ. 2564 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 61ซึ่งการจัดงานแสดงของช้างจังหวัดสุรินทร์ จัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2503 ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2515 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้เป็นงานประจำปีของชาติ ตามข้อเสนอของ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในปัจจุบัน) รัฐบาลไทยได้กำหนดนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ โดยมุ่งเน้นสู่การเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวคุณภาพชั้นนำระดับโลก บนพื้นฐานของความเป็นไทยและกระจายรายได้สู่ขุมชน



จังหวัดสุรินทร์ จัดงานเน้นการส่งเสริมกิจกรรมที่มีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรมและประเพณี ท้องถิ่น ซึ่งจังหวัดสุรินทร์มีเอกลักษณ์โดดเด่นทางประเพณีศิลปวัฒนธรรมทางด้านของซนเผ่า อาทิ แขมร์ กูย และลาว จนได้ชื่อว่าเป็น "ศูนย์กลางทางวัฒนธรรมอีสานใต้" ปี พ.ศ. 2564 จังหวัดสุรินทร์ กำหนดให้มีการจัดงานแสดงช้าง ในวันที่ 25-26 ธันวาคม 2564 ซึ่งการจัดงานแสดงช้างสุรินทร์ในปีนี้ สอดรับกับนโยบายการท่องเที่ยวของ รัฐบาล ที่ว่า "ท่องเที่ยววิถีไทย วิถีชุมชน" โดยการแสดงข้างฯ ที่ยังคงรักษาความโดดเด่น ทางด้านขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรม ความเป็นอัตลักษณ์ชาวแขมร์ กูย หรืออัตลักษณ์ ชาวอีสานใต้ตอนล่าง

ซึ่งเมืองสุรินทร์ มีประวัติการก่อตั้งเมืองที่มีความเกี่ยวพันกับช้างดังปรากฏ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา และในปัจจุบันจังหวัดสุรินทร์ เป็นจังหวัดที่มีช้างเลี้ยงมากที่สุดของ ประเทศจนได้รับการขนานนามว่า "สุรินทร์ถิ่นเมืองช้าง"

การจัดงานแสดงข้างจังหวัดสุรินทร์ ในปี พ.ศ. 2564 นี้ ได้มีการผสมผสานการ แสดงด้านศิลปวัฒนธรรมประเพณีชาวสุรินทร์ บรรจุในฉากการแสดงข้าง เพื่อเล่าเรื่องราวความ เป็นมาของชาวสุรินทร์ การแสดงการชนช้างที่สมจริงสมจังมากที่สุด รวมทั้งมีการรวมตัวของช้าง ในสนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ที่มากกว่า 140 เชือก


จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และขาวต่างประเทศ มาเที่ยวชมการแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์และชมความน่ารักของช้า ในระหว่างวันที่ 25-26 ธันวาคม 2564 ที่ สนามแสดงข้างจังหวัดสุรินทร์ ตำบลนอกเมือ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยมี ฉาก (องก์) การแสดงฯ ดังนี้ การแสดงข้างฯ ภาคกลางวัน เวลา 08.45-12.00 น. จำนวน 5 องก์ ดังนี้ กูยอาเจียง คนเลี้ยงช้าง องก์ที่ 1 สุรินทร์ โลกของช้าง (ทะเลช้าง) องก์ที่ 2 สืบพระศาสนา วิถีศรัทธาคนกับช้าง(บวชบนหลังช้าง) องก์ที่ 3 การละเล่นของช้าง องก์ที่ 4 องก์ที่ 5 มหายุทธหัตถีแห่งอุษาคเนย์ การแสดงข้างฯ

ภาคกลางคืนแสดง เวลา 19.00-21.00 น. จำนวน 4 องก์ ดังนี้ องก์ที่ 1ร้อยอารธรรมปราสาทตาเมือน องก์ที่ 2 กำเนิดหัวเมืองเขมรป่าดง การจับช้างป่า (โพนช้าง)องก์ที่ 3 องก์ที่ 4 เฉลิมยศ ฉลองเมือง พระยาสุรินทร์ภักดี นอกจากการแสดงของช้างดังกล่าวแล้ว จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง กันเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานและชมความน่ารักของช้าง ขอเชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวงานแสดงของช้างจังหวัดสุรินทร์ ประจำปี พุทธศักราช 2564 ซึ่งส่วนราชการหน่วยงานต่างที่ รับผิดชอบการจัดงานแสดงของช้าง มีความพร้อม อย่างเต็มที่ในการดูแลนักท่องเที่ยว ทั้งการป้องการกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาตตรการรักษาความปลอดภัยแท่นักท่องเที่ยว ขอเรียนเชิญนักท่องเที่ยว เดินทางมาเที่ยวชม งาน"มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์" ระหว่างวันที่ 15-26 ธันวาคม 2564 ในวันที่ 23 ธ.ค.64 เป็นการซ้อมใหญ่การแสดงช้าง เวลา 08-12.00 น.กลางคืนเวลา 19-21.00 น.ที่สนามแสดงช้าง การเลี้ยงอาหารจัดขึ้นในเช้าวันที่ 24 ธ.ค.64 เวลา 07.30 น.ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ นักท่องเที่ยวจะประทับใจในความฉลาดและน่ารักของช้างแสนรู้ เมื่อได้มาเที่ยวเมืองสุรินทร์






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.