วันนี้ ( 15 ธ.ค.64 ) ณ ศูนย์เรียนรู้การเพาะเลี้ยงปูทะเลบ้านโต๊ะโสม ต.บางปู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องการส่งเสริมการเลี้ยงปูทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายอาชีพที่ทาง ศอ.บต. ได้ส่งเสริม เพื่อสร้างรายได้สร้างอาชีพให้ประชาชนโดยเฉพาะในสถานการณ์ของโควิด-19 เพื่อให้ประชาชนมีรายได้หลายช่องทาง  เพราะปูดำเป็นที่ต้องการของตลาดสูง
 
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีมอบลูกพันธุ์ปูให้แก่สมาชิกกลุ่มเลี้ยงปูทะเล และมอบพันธุ์ไม้โกงกาง เพื่อเป็นแหล่งอนุบาลลูกปูในพื้นที่ให้แก่สมาชิกกลุ่มท่องเที่ยวชุมชน และกล่าวดีใจได้เห็นรอยยิ้มของประชาชน  ขอให้ทุกคนได้นำศักยภาพที่มีอยู่โดยเฉพาะด้านการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่กับการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน ขณะนี้รัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหาความยากจนรายครัวเรือน และปรับให้ตรงกับความต้องการของประชาชนและสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ โดยดำเนินการอย่างเป็นระบบครบวงจรตั้งแต่กระบวนการผลิต แปรรูป การจำหน่ายและการตลาด  รวมไปถึงต้องปรับตัวให้ทันและสอดคล้องกับบริบทสถานการณ์เศรษฐกิจของโลกและราคาน้ำมัน  พัฒนาทำเกษตรแนวใหม่  ปศุสัตว์ อาหารฮาลาล เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็น “เมืองแห่งปูทะเลโลก” สร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า การขับเคลื่อนงาน ต้องร่วมมือกันและรับฟังความคิดเห็นหรือประชาพิจารณ์ของประชาชนในพื้นที่ มีการทำผลการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ หรือ SEA ภายใต้การปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ สิ่งสำคัญต้องดำเนินทุกมิติให้มีความสมดุลกันทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สุขภาพ ควบคู่การรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามนโยบายรัฐบาล สอดคล้องกับนโยบายของทั่วโลกที่ให้ความสำคัญในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมและลดโลกร้อนไปสู่เป้าหมายที่กำหนดร่วมกัน อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง ขอให้ทุกคนรับฟังการเสนอข่าวของรัฐบาล เพื่อจะได้รู้ว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่  รัฐบาลก็พร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกคนเพื่อร่วมมือกันทุกภาคส่วนในสังคมให้การดำเนินการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศโดยรวมสามารถเดินหน้าต่อไปได้
 
นายกรัฐมนตรีกล่าวพอใจการพัฒนาให้จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  รองรับการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยในอนาคต  ซึ่งรัฐบาลได้ดูแลช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้มีรายได้น้อย โครงการคนละครึ่ง และการเร่งแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน  ยืนยันนายกรัฐมนตรีซื่อตรงทุกเรื่อง และปรารถนาดีกับประชาชนทุกคนทั้ง 70 ล้านคน พร้อมฝากย้ำให้ข้าราชการต้องทำงานเชิงรุก มีวิสัยทัศน์ แก้ปัญหานำนโยบายไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยไม่ให้เกิดการทุจริต
 
นายกรัฐมนตรียังกล่าวชื่นชมการดำเนินงานของสมาชิกกลุ่มเลี้ยงปูทะเล และประชาชนที่เชื่อมโยงกลุ่มอาชีพเลี้ยงปูทะเลไปยังอาชีพอื่น รวมถึงประชาชนที่ให้ที่ดินดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็น “เมืองแห่งปูทะเลโลก” เชื่อมโยงไปสู่ห่วงโซ่ด้านการท่องเที่ยวที่สวยงาม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มากขึ้น สร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน พร้อมขอให้น้อมนำแนวทางตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ขอให้ทุกคนร่วมกันทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน นี่คือสิ่งที่พลัง soft power ของไทย และอย่าให้ใครมาทำให้เกิดความแตกแยก และสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจของประเทศให้ขับเคลื่อนต่อไป

โดยช่วงหนึ่ง นายกฯ ได้จับปูดำโชว์ พร้อมกล่าวว่า “ปูน็อกกันไปหมดแล้วเพราะเสียงของฉัน เดี๋ยวต้องไปดูปูซักหน่อย” ก่อนที่นายกฯจะถามถึงลักษณะปูเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งเมื่อได้รับการรายงานว่าปูตัวเมียบางตัวจะเป็นปูกะเทยมาก่อน เมื่อลอกคราบแล้วจะกลายเป็นปูเพศเมีย โดยนายกฯกล่าวว่า ปูเป็นกะเทยด้วยหรือ พร้อมกับดูปูอย่างสนใจ พร้อมโชว์ฝีมือการผัดปูผงกระหรี่ 

โดย นายกฯ กล่าวต่อว่า แม้ไม่ถนัดงานทำอาหารแต่ต้องทำงานได้ เมื่อชาวบ้านทำได้เราก็ต้องทำได้ มันน่ากินจริงๆ น่ากิน เพราะอุทิศส่วนกุศลไปด้วย” นายกฯ กล่าว พร้อมชิมฝีมือตัวเองและกล่าวว่า หอมจัง ขออุทิศส่วนกุศล ชาติหน้าขอให้เกิดเป็นมนุษย์นะ เนื้อปูมันหวาน เพราะของมันสดรสชาติเลยกลมกลืนและยิ่งใส่น้ำใจนายกฯลงไป ด้วยมันก็ยิ่งอร่อย