"เอิร์น" ฟ้อง "สามี-แม่น้ำหนึ่ง" ปมถูกแย่งสามี - เรียกเงิน 3 แสน
16 ธ.ค. 2564, 18:25
จากกรณีที่ แม่น้ำหนึ่ง เจ้าแม่ใบ้หวยคนดังได้โดนกล่าวหาว่า แย่งสามีชาวบ้าน หลังจากเลิกสามีไม่นานนัก เจ้าตัวก็ได้ออกมาปฏิเสธ ไม่เคยแย่งสามีชาวบ้าน เป็นเพียงความสนิทกับพนักงานในบริษัท เคยทักไปเคลียร์กับฝ่ายหญิง มั่นใจว่าถ้าอีกฝ่ายมีหลักฐานก็นำมาฟ้องได้เลย
ล่าสุด (16 ธ.ค.) ที่โรงแรมโคราชโฮเทล อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายกฤษฎา โลหิตดี หรื อทนายโนบิตะ พร้อม นายภาณุมาศ จิตวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก นักธุรกิจชาวอุดรธานี และ นางสาวดุสิตา แนมขุนทด หรือ เอิร์น ซึ่งเป็นภรรยาโดยชอบกฎหมายของ นายพงศธร คงเพชรศักดิ์ หรือนายฟิล์ม ได้ร่วมกันแถลงข่าว เกี่ยวกับข้อเท็จจริงและเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่าง “แม่น้ำหนึ่ง” หรือ นางสาวภิรดา ธนโชติจินดา เจ้าแม่ใบ้หวยชื่อดัง เกี่ยวกับกระแสข่าวที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนายฟิล์ม ซึ่งเป็นลูกจ้าง
ทางด้าน เอิร์น เผยว่า ตนเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ออกมาครั้งนี้ เพราะต้องการปป้องสิทธิการเป็นภรรยา ที่ชอบด้วยกฏหมาย และเรียกร้องสิทธิให้แก่ลูกทั้งสองคน ขอขอบคุณทนายโนบิ และเฮียเปี๊ยก ที่เข้ามาช่วยเหลือ
ตนต้องการพิสูจน์ความจริงให้สังคมได้รับรู้ และการที่โพสต์เรื่องราวพฤติกรรม ความสัมพันธ์ของสามี กับเจ้าแม่ใบ้หวย เป็นสิ่งที่ภรรยาทุกคนโดนกระทำ ต้องทนเจ็บปวดเก็บซ่อนน้ำตาไม่ให้ลูกเห็น
ลูกสาววัย 8 ขวบ ที่เคยนั่งรถไปกับ นายฟิล์ม คุณพ่อ และเจ้าแม่ใบ้หวย ได้เล่าให้ตนฟังว่า เจ้าแม่ใบ้หวยได้หอมแก้มพ่อต่อหน้าลูก ตนจึงรู้สึกตกใจ และใจแตกสลาย ที่ผ่านมาฝ่ายตรงข้ามมักส่งคนมาคุกคาม ข่มขู่ เจรจา แม้ตนบอกว่าให้เจรจากับทนายก็ไม่ยอมทำตาม ที่ผ่านมาตนต้องอดทนมาก จนตัดสินใจฟ้องหย่าสามี และเรียกค่าทดแทนจากเจ้าแม่ใบ้หวย โดยน้องตนเองจะเป็นผู้ดูแลลูกทั้งสองคนแต่เพียงผู้เดียว และจะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูกทั้งสองคน
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน เฮียเปี๊ยก และทนายโนบิตะ ได้รับคลิปเสียงชายปริศนาที่มาข่มขู่แล้ว แม้ว่าชายคนนี้จะอ้างเป็นทนายความ แต่ไม่ใช่ศาล ไม่ควรมาตัดสินใครผิดถูก
ดังนั้น วันนี้ (16 ธ.ค.) จะเป็นการยื่นฟ้องคดีโดยน้องเอิร์นจะยื่นฟ้อง นายพงษธร คงเพ็ชรศักดิ์ หรือฟิล์ม เป็นจำเลยที่ 1, นางสาวภิรดา ธนโชติจินดา เป็นจำเลยที่ 2 ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวนครราชสีมา เพื่อฟ้องหย่า เรียกค่าทดแทนและค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร
โดยจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากนางสาวภิรดา ธนโชติจินดา เป็นจำเลยที่ 2 จำนวน 300,000 บาท และเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูแก่บุตรทั้งสองจากนายพงศธร คงเพชรศักดิ์หรือฟิล์ม จำเลยที่ 1 คนละ 5,000 บาท จนกว่าบุตรทั้งสองจะบรรลุนิติภาวะ ซึ่งมองว่าการฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูและเรียกค่าทดแทนดังกล่าวนั้น เป็นการฟ้องและเรียกตามฐานานุรูป ที่เป็นไปตามความเป็นจริงตามฐานะของโจทก์ และไม่ได้เป็นการฟ้องเพื่อกลั่นแกล้งหรือฟ้องเพื่อต้องการเงิน 2 ล้านตามที่มีอีกฝั่งโจมตีแต่อย่างใด”
ส่วนกรณีเงิน 2 ล้านบาทตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้างนั้นเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้งสองคน ซึ่งถ้าหากคำนวณจากยอด 5,000 บาทต่อเดือน โคยคิดคำนวณจนกว่าบุตรผู้เยาว์ทั้งสองจะบรรลุนิติภาวะก็จะตกประมาณเกือบ 2 ล้านบาทเช่นกัน ส่วนในเรื่องของพยานหลักฐานก็ไม่ได้หนักใจ เพราะมีพยานหลักฐานเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ คลิปวิดีโอ และเส้นทางการเดินทางของจำเลยจาก Google maps ประกอบกับภาพใน Facebook สตอรี่ของจำเลยทั้งสองที่ไม่ใช่ปกติที่ลูกจ้างนายจ้างพึงมีต่อกัน และนายฟิล์มเองก็ยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ชอบแม่น้ำหนึ่ง อีกทั้งยังมีพยานบุคคลในหมู่บ้านจำนวนมากที่พบเห็นบุคคลทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกัน และมีคนสนิทคนหนึ่งของเจ้าแม่หวยคนนี้ซึ่งเป็นคนที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาเป็นพยานในคดีด้วย