"ผู้ว่าฯ สุรินทร์" ประกอบพิธีเซ่นไหว้ศาลประกำ และขอขมาพระยาสุรินทร์ฯ พร้อมพิธีสงฆ์อุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ
17 ธ.ค. 2564, 15:58
จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยข้าราชการ และหน่วยงานต่างๆ เดินทางไปร่วมงานพิธีเปิดเมือง ที่บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ซึ่งหน่วยงานรับผิดชอบการจัดงานช้างและงานช้างแฟร์ จัดขึ้น มีการนำ ฤาษี 3 ตน หมอธรรม ร่างทรงเทพ หมอผีต่างๆ หญิงนุ่งขาว รวมถึงอดีตสามเณรแอ อดีตจอมขมังเวท ย่างศพเด็กทารก และอดีตนักโทษ ชื่อดัง มาร่วม ทำพิธี สร้างความแปลกใจให้กับชาวสุรินทร์ ที่เข้าร่วมพิธีบวงสรวง ที่ ต่างสงสัย และตั้งคำถามกันมากว่าปีนี้มีฤษีและร่างทรงมาร่วมงานด้วย บอกว่ามาเปิดบ้านเปิดเมืองไล่โควิด-19 จนชาวสุรินทร์ และชาว โชเชียล ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า น่าจะนิมนต์พระเกจิอาจารย์ หรือหมอช้าง มาร่วมงานทำพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่เมืองมากกว่า ไม่ควรนำ หมอผี คุณไสย หรือมนตร์สายดำ มาทำพิธีเปิดบ้านเปิดเมือง เพราะไม่ เหมาะสมอย่างยิ่ง หวั่นจะเกิดอาเพศ สิ่งอัปมงคลขึ้นในจังหวัดสุรินทร์ได้
ล่าสุดวันนี้ เวลา 09.30 น. นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วยประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ประกอบพิธี เซ่นไหว้ขอขมาศาลประกำเมืองสุรินทร์ ซึ่งชาวช้างถือเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง หากชาวช้างจะประกอบกิจการใดก็จะต้องเซ่นไหว้ศาลประกำ ด้วยอาหารคาวหวาน น้ำดื่ม ผลไม้ ดอกไม้สด ศาลปะกำ และเชือกปะกำ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวช้างสุรินทร์ให้ความเคารพและเซ่นไหว้ก่อนออกคล้องช้างหรือทำกิจกรรมอื่นๆ เกี่ยวกับช้างเสียงบทสวดพิธีกรรมเป็นภาษาชาวกูยของพ่อหมอเฒ่าเมืองสุรินทร์ เพื่ออัญเชิญผีปะกำและวิญญาณบรรพบุรุษรับเครื่องเซ่นไหว้พร้อมกับขอพรเพื่อให้มีโชคลาภ และเสี่ยงทายผลที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรม ซึ่งอยู่ใก้ลกับอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ ภักดีศรีณรงค์จางวาง จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้ประกอบพิธี เซ่นไหว้บวงสรวงขอขมา พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จากวาง โดยกข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้กระทำการประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินสิ่งหนึ่งสิ่งใด ต่อพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง เจ้าพ่อหลักเมือง ปะกำเมือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาจังหวัดสุรินทร์ ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ได้โปรดรับทราบและเป็นพยานว่า ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอขมาต่อสิ่งที่ได้ประมาทพลาดพลั้งไป พร้อมทั้งนี้ได้จัดเครื่องบวงสรวงสักการะ อันเป็นมงคลทั้งหลายทั้งปวงนี้ถวายแด่ท่าน พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง เจ้าพ่อหลักเมือง ปะกำเมือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาจังหวัดสุรินทร์ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายโปรดยกโทษ และให้อโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อความสงบสุข ร่มเย็น ความเป็นศิริมงคล แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย และจังหวัดสุรินทร์ด้วยเทอญ
หลังจากนั้นได้ประกอบทางศาสนา โดยนิมนต์ พระสงฆ์ จำนวน 65 รูปร่วมพิธี และพระสงฆ์ จำนวน 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ นำโดยพระราชสุตาลังการที่ปรึกษาคณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ เจ้าอาวาสวัดพรหมสุรินทร์ จากนั้นถวายภัตราหารถวายแด่พระสงฆ์ จำนวน 65 รูป และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล แด่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วเพื่อเป็นการขอขมา เพื่อให้การดำเนินกิจการใดๆและความสุขสงบร่มเย็น เจริญรุ่งเรืองของชาวสุรินทร์ ตลอดไป
นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า หลังจากประกอบพิธีเซ่นไหว้ศาลประกำ พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง และพิธีทางสงฆ์แล้วมีความสบายใจขึ้น ผู้ที่มาร่วมงานจะเห็นว่าเมื่อวานก่อนแดดร้อนมากวันนี้ได้รับความร่มเย็น ลมแดดหายไปหมดเชื่อว่าสิ่งศักดิ์ของเมืองสุรินทร์ ท่านได้รับทราบที่พวกเรามาขอขมา ความร่มเย็นกลับคืนมาให้ชาวสุรินทร์ หลังจากนี้ไปการจัดงานช้างจะราบรื่น ตามวัตถุประสงค์ จังหวัดสุรินทร์ ก็จะมีวามรุ่งเรือง รื่นรมย์ และร่ำรวย หลังจากขอขมา เนื่องจากที่ผ่านมาทุกคนไม่สบายใจ และตนเองก็ไม่สบายใจ สิ่งที่ทำนี้ก็คือการเรียกคืนความสบายใจให้ชาวสุรินทร์ ซึ่งเราได้ทำให้ทุกคนสบายใจแล้ว
นายกมล นิวัฒน์บรรหาญ อายุ 74 ปี ชาวเมืองสุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ได้ประกอบพิธี ในวันนี้ เป็นวันสำคัญวันวันหนึ่งที่ลูกหลานชาวสุรินทร์ ที่ได้มีส่วนร่วมในการเจริญพระพุทธมนต์ บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองสุรินทร์ ดีใจที่ทางพ่อเมือง ให้เกียรติ มีส่วนร่วม ประกอบพิธีในวันนี้ ทุกคนมีความตั้งใจทำดีทุกคน ไม่ว่าใครต่อใคร เพราะที่ตรงนี้ ส่วนรวม ที่มีทั้งดีและไม่ดี มันจะมีอยู่ทั่วไป เหมือนกับเราจะทำอะไรก็จะมีเรียกสัมพเวสีมาทุกอย่างก็จะมีปนเปกันเป็นเรื่องธรรมดา ในมุมมองของผม มันมีตัวแทรกมาเราไม่รู้ว่ามันมาแทรกได้อย่างไร เราไม่ได้ตำหนิหรอกว่าใครดีไม่ดี ทุกสิ่งมันก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แล้วแต่คนว่าจะชอบหรือไม่ชอบบางที่เราไม่ชอบสิ่งไม่ดี เราชอบแต่สิ่งดีๆลูกหลานชาวสุรินทร์ วันนี้ได้มาประกอบพิธีแล้ว มาขอขมาแล้วเราก็สบายใจ โล่งอกกันทุกคน และอย่าไปคิดมาก บางอย่างต้องปล่อยไปตามกระแสลม
นายสมศรี บุญมี นักวิชาการภูปัญญาท้องถิ่นสุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องแปลกมาก เพราะปกติพิธีกรรมแบบนี้ต้องมีพ่อพราหมณ์ มาประกอบพิธี ถ้าจะมีรำก็รำบวงสรวง มีอะไรที่แปลกเข้ามาคือก็ตกใจ บ้านเราไม่ได้เคารพฤาษี แต่เคารพในที่เคยนับถือมา มาเยอะด้วยและแปลกด้วย พิธีนานนานด้วย ตอนนั้นตอนเองมาประชุมที่ สาธารณสุข อยู่ชั้น 4 ยืนดูอยู่แล้วก็ลงมาดู ที่งาน เห็นว่าแปลก ช่วงเช้ามีการพิธีบวงสรวงหมอช้างทำพิธีเสร็จ พอมีการทำพิธีเปิดเมือง ต่อเลยสงสัยไม่ได้ เป็นพิธีการที่นานและตั้งใจทำ เจตนา เขาก็ตั้งใจและแปลกด้วย เพราะไม่เคยมีอย่างนี้มาก่อน ความเชื่อเป็นสิทธิ์ของคนก็ใช่ แต่บางพื้นที่เขาปลูกฝังมานาน มันก็จะขัดแต่ถ้าเป็นสิทธิ์ก็ทำได้ แต่ถ้าเรามีอโหสิกรรมให้กัน ก็ถือเป็นบทเรียน จะทำอะไรในอนาคต ก็ต้องพิจารณาให้ดีและรอบครอบต่อประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้นๆไว้ให้ดี