ยังคงติดตามกันกับกรณีสาวรายหนึ่งตกลงขายกระเป๋า Hermes Constance 24 ให้กับร้านรับซื้อแบรนด์เนมในราคา 390,000 บาท จากที่ซื้อมาประมาณ 500,000 บาท ทว่าต่อมาเจ้าของร้าน ตรวจสอบและบอกว่าเป็นของปลอม จึงใช้ปากกาเขียนลงที่กระเป๋าว่า "ปลอม" อ้างว่าทำแบบเดียวกับที่ช็อปแอร์เมส เวลาลูกค้าเอากระเป๋าปลอมมาให้ดู จะได้ไม่เอาไปหลอกใครอีก ต่อมาเจ้าของกระเป๋าจะขอรับกระเป๋าคืน แต่ทางร้านไม่คืน ยืนยันว่าตรวจสอบเองรู้ว่าใบไหนจริงหรือปลอม แต่เมื่อมีการถกเถียงกัน จึงได้ส่งไปตรวจสอบที่ช็อปต่างประเทศ และยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโซเชียล 

 

ล่าสุดมีรายงานว่า ทางผู้เสียหาย เจ้าของกระเป๋า ได้เงินโอนคืนจากร้านคู่กรณีแล้ว เป็นจำนวนเงิน 395,000 บาท โดยที่ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ซึ่งตนเองจะไปลงบันทึกประจำวันไว้ และไม่ขอรับเงินนี้ เพราะทางร้านเป็นคนประกาศเองว่า ถ้ากระเป๋าแท้จะจ่าย 2 ล้าน และจะเลิกเป็นกระเทย  อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านแบรนด์เนมที่รับซื้อกระเป๋า กล่าวว่า ไม่เคยซื้อขายสินค้ากับน้องคนนี้มาก่อน แต่เขาแอดไลน์ร้านมาพูดคุยแล้วเสนอขายให้ แต่จากการพูดคุยและตกลงขายให้ในราคา 395,000 บาท ซึ่งต่ำกว่าท้องตลาดให้รู้สึกแปลกใจ เพราะกระเป๋าแบรนด์เนมมีแต่ราคาจะขึ้น ใบนี้มือหนึ่งราคาราว 5 แสนบาท ถ้าขายมือสองก็ตกราวๆ 4 แสนบาท พอได้ของมา ก็พบจุดผิดสังเกตหลายจุด ทั้งกล่อง ใบเสร็จที่ไม่ตรงรุ่น และริบบิ้นกระเป๋า แต่วันนี้ก็เตรียมจะโอนเงินให้กับเจ้าของกระเป๋าแล้ว เพราะเรื่องที่เป็นดราม่า คือการที่ยึดกระเป๋าไว้ ซึ่งตามจริงก็จะคืนไปตั้งแต่ 3 วันก่อนแล้ว ตอนนี้ก็ให้ตำรวจบางขุนเทียนเก็บไว้เพื่อรอผู้เชี่ยวชาญได้พิสูจน์ให้แน่ชัดก่อน

เจ้าของร้าน ยืนยันด้วยว่าตัวเองไม่มีเจตนาที่จะยักยอกไป เพราะก็คอยติดต่อกับตำรวจตลอด และวันที่ 23 ธ.ค.นี้ก็มีนัดพบกับตำรวจแล้ว ซึ่งเขาบอกว่าเป็นคดีที่ยอมความกันได้ ส่วนการที่ขีดเขียนข้อความลงไปนั้นไม่ใช่เจตนาที่จะแกล้ง อีกทั้งปากกาที่ใช้เป็นปากกาซิลิโคนที่ลบออกได้ ทั้งนี้ก็เพราะเคยโดนหลอกขายกระเป๋าปลอมมา 2 ใบ ราคารวม 1 ล้านบาทไปแจ้งความไว้ก็ไม่คืบหน้า ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่โอนเงินไปก่อน และก็อยากรู้ว่า ต้นทางคนที่โกงนั้นมาจากไหน