ผู้ใช้ เฟซบุ๊ก Jaturong Prombooth ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เผยเหตุการณ์ที่หญิงรายหนึ่ง เมื่อตำรวจเอง ได้รับแจ้งว่ามีคนขโมยของที่ร้านแห่งหนึ่ง   และจับได้ว่า หญิงคนหนึ่ง ขโมยเงินทอดกฐินที่เสียบไม้ จำนวน 160 บาท และในทางคดีนั้นถือเป็นคดีอาญา ยอมความกันไม่ได้

           หญิงคนดังกล่าว เผยว่า เธอตั้งใจจะนำเงินไปซื้อข้าวให้ลูก 2 คน โดยเธอนั้นเป็นพนักงานล้างจาน ได้เงินวันละ 300 บาท แต่ต้องจ่ายค่าบ้านอีก 3,300 บาท ซึ่งรายได้แค่นี้ ใช้อยู่ กทม. ก็แทบไม่พอจ่าย 

           แต่สิ่งที่น่าเศร้าใจที่สุดคือ เมื่อแม่โดนจับได้ ลูกวัย 13 ปีกลับวิ่งมาหาแล้วถามว่า แม่ขโมยเงินทำไม  เนื่องจากแม่สั่งสอนมาตลอดว่าอย่าขโมยเงินผู้อื่น และลูกวัย 12 ปีเองก็เสียใจ มองว่าแม่ขโมยเงิน 160 บาทและคืนเงินแล้ว ทำไมไม่ปล่อยตัวแม่ โดยผู้เป็นแม่ทำได้แค่ขอโทษลูก ส่วนตำรวจนั้นก็เห็นใจ แต่จำเป็นต้องทำตามกฎหมาย จนลูกวัย 13 ต้องไปซื้อข้าวมาให้แม่กิน ส่วนลูกวัย 12 ก็ไปบอกผุ้จัดการที่ร้านของแม่ว่าแม่โดนจับเพราะขโมยเงินกฐิน แต่ผู้จัดการร้านไม่เชื่อ 

           จากนั้น ต้องมีการส่งแม่ไปฝากขัง เด็กก็ร้องขอนอนกับแม่ แต่ตำรวจไม่ให้นอนในห้องขัง แต่ให้นอนตรงเบาะในโรงพัก และถ้าแม่ไปขึ้นศาลในฐานะผู้ต้องหา แม่คงตกงาน

           "เรื่องนี้มันสะท้อนไปทั้งระบบสังคมเลยคนทำผิด ผิดจริง ก็ควรว่าไปตามผิด แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าสภาพสังคมที่บัดซบเฮงซวย และระยะห่างของชนชั้นมันก็มีผลให้คนตัดสินใจก่ออาชญากรรม"
  เจ้าของเรื่องราว ได้ติดตามรายละเอียดครอบแม่ลูกทั้ง 3 คน เพื่อหาทางช่วยเหลือ ซึ่งเรื่องคดีนั้นสุดท้ายแม่เด็กเคราะห์ดีที่ไม่ต้องติดคุก โดยศาลลงโทษปรับเป็นเงิน 5,000 บาท และเลื่อนชำระออกไปอีก 1 เดือนหรือมิเช่นนั้นก็มาทำงานบริการสังคม วันละ 4 ชั่วโมงทั้งหมด 10 วัน แต่ผู้ต้องหานั้นมาไม่ได้ เนื่องจากกลัวขาดรายได้ และที่ทำงานลางานไมไ่ด้ ทำให้แม่ลูกทั้ง 3 คนได้อยู่พร้อมหน้ากันต่อไป ส่วนแม่เด็กนั้นก็ยังไม่ตกงานอีกด้วย

            ล่าสุด พบว่าหลังเรื่องราวของ 3 แม่ลูก ถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีการช่วยเหลือเข้ามาจำนวนมาก ทั้งมีผู้ใจบุญช่วยจ่ายค่าปรับ 5,000 บาทให้ และตำรวจจะเร่งไปดำเนินการจ่ายให้ทันที นอกจากนี้ ยังมีคนซื้อจักรยาน อาหาร หม้อหุงข้าว เพื่อช่วยให้ครอบครัวนี้ใช้ชีวิตได้สะดวกมากขึ้น และมอบทุนการศึกษาให้เด็กทั้ง 2 คน ถือเป็นการแบ่งเบาภาระเพิ่มเติม ถือเป็นการให้โอกาสเด็ก ๆ ได้เติบโตและพัฒนาชีวิตให้ดีต่อไป

            "ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่ให้โอกาสครอบครัวนี้ กลับสู่สังคม ซึ่งผมมั่นใจว่า ไม่ได้มีแค่ครอบครัวนี้ครอบครัวเดียว แต่ยังมีอีกเป็นร้อย ๆ ครอบครัวที่ประสบปัญหาเช่นนี้ ปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ ความสามารถในการเข้าถึงปัจจัย 4ที่ไม่เท่ากัน ผมเชื่อว่ามันเป็นสิ่งบีบคั้นที่ทำให้คนก่ออาชญากรรม ซึ่งก็ต้องมองเป็นกรณี ๆ ไป แต่กรณีนี้จากการเป็นพนักงานสอบสวนมาเกือบ ๆ 2 ปี ถือว่าสะท้อนสังคมได้มากที่สุด"