วันนี้ 19 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ศาลาประชาคม หมู่ 3 ต.จระเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี นายเศษฐวิชช์ อัครกิจวราสกุล หรือโสอดีตผู้สมัคร สส.จังหวัดกาญจนบุรี พรรคเสรีรวมไทย เขต 1 พร้อมทีมงานนำข้าวสาร จำนวน 1 ตัน ไปมอบให้กับประชาชนเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ โดยมีผู้นำท้องถิ่นผู้นำท้องที่รวมทั้งชาวบ้านประมาณ 100 คน ให้การต้อนรับ การมอบข้าวสารในครั้งนี้มี ดร.พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมเดินทางมาด้วย

ทั้งนี้ ดร.พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ กล่าวว่า วันนี้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เขต 2 และเขตใกล้เคียงรวมทั้งพี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรีทั้งหมดกำลังเกิดความลำบาก โดยเฉพาะเรื่องค่าครองชีพ ซึ่งจากการที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นเวลา 3 วัน ได้มีโอกาสพูดคุยกับชาวบ้านหลายคน ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าช่วงฉลองปีใหม่ที่จะถึงนี้อย่าว่าแต่จะไม่ได้เที่ยวเลย ปีใหม่นี้ภาวนาขอให้มีข้าวกินขอให้มีเงินใช้หนี้ก็มีความสุขแล้ว ซึ่งทุกคนต่างก็บอกว่าลำบากเพระไม่มีข้าวจะกินและไม่มีเงินไปใช้หนี้ ทุกวันนี้เป็นยุคที่ลำบากสุดๆ เนื่องจากเป็นยุคข้าวยากหมากแพง และจากการที่ได้พูดคุยกับชาวบ้านที่มารับข้าวสารในครั้งนี้นั้นบางคนมีอาชีพทำนาแต่ขายข้าวได้กิโลกรัมละเพียงแค่ 5 บาท ซึ่งถูกกว่าราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยซ้ำ จึงทำให้รายได้ที่มีมันไม่พอกิน บางคนทำไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง แต่ผลผลิตราคามันตกต่ำ แต่ราคาต้นทุนสูงขึ้นโดยเฉพาะราคาปุ๋ย ปุ๋ยบางสูตรราคาอยู่ที่ 400 บาท แต่ปัจจุบันราคาอยู่ที่กว่า 800 บาท ส่วนปุ๋ยยูเรียจากที่เคยมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 500-600 บาท ปัจจุบันราคาอยู่ที่ประมาณ 1,300 บาท ทำให้เกษตรกรชาวไร่ชาวนาสู้ต้นทุนไม่ไหว นี่คือสิ่งที่ตนอยากจะสะท้อนปัญหาให้เห็นว่า ภาครัฐหรือรัฐบาลจะต้องลงมาดูแลเรื่องต้นทุนของเกษตรกรโดยเฉพาะปุ๋ยที่มีราคาแพงขึ้น และน้ำมันที่มีราคาแพงขึ้น

จึงอยากจะขอใช้โอกาสนี้ฝากไปยังผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะรัฐบาลและคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีคือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะตนเป็นประชาชนคนหนึ่งที่สัมผัสกับประชาชนไปทั่ว และในวันนี้ได้มีโอกาสมาเยี่ยมหลานชายที่จังหวัดกาญจนบุรี และได้นำข้าวสารมาแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชนหมู่ 3 ต.จระเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย แต่ทำได้แค่บางหมู่บ้านเท่านั้น

แต่รัฐบาลสามารถส่งความสุขให้กับประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศได้ทั่วฟ้า หากเป็นไปได้ตนอยากร้องขอไปถึงรัฐบาลให้ของขวัญกับคนไทยคือ สิ่งแรกพิจารณาให้ฝนตกได้ทั่วฟ้าจากเงินภาษีที่ประชาชนทุกคนเป็นคนจ่าย ขอให้รัฐบาลลดภาษีน้ำมันอย่างจริงจังได้หรือไม่ จากที่ราคาอยู่ที่ลิตรละเกือบ 30 บาท ขอให้ลดลงอีกประมาณ 7 บาท 8 บาท หรือ 10 บาททำได้หรือไม่ ซึ่งคนเราจะต้องหาวิธีการทำให้ได้ หากทำได้ทุกอย่างจะได้อานิสงค์ไปหมด ทั้งภาคการเกษตร SME รวมทั้งการท่องเที่ยวก็จะถูกระตุ้นไปพร้อมกันเพราะเป็นการลดต้นทุนที่แท้จริง

ของขวัญสิ่งที่สอง ขอให้รัฐบาลลดค่าพลังงานหรือลดค่าไฟฟ้าอย่างจริงจัง และ ของขวัญสิ่งที่สามคือ มอบให้กับเกษตรกรโดยเฉพาะเกษตรกรชาวนาและชาวไร่ ขอให้รัฐบาลลดต้นทุนอย่างจริงจังได้หรือไม่เพราะปัจจุบันนี้พืชเกษตรกรทุกชนิดมีราคาที่ตกต่ำ แต่ราคาปุ๋ยที่เป็นต้นทุนกลับมีราคาที่แพงขึ้นมาก ขอให้รัฐบาลที่กำกับกระทรวงพาณิชย์ลงมาทำอย่างจริงจัง และของขวัญที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ขณะนี้เกษตรกรจะต้องจ่ายทั้งหนี้สินและดอกเบี้ยให้กับ ธกส.ทำให้ทุกคนลำบากมาก ดังนั้นขอให้พักหนี้พร้อมดอกเบี้ยให้กับเกษตรเป็นเวลา 2-3 ปี ให้มันเป็นรูปธรรมไปเลย หากรัฐบาลให้ของขวัญกับประชาชนตามที่ว่ามาได้ จะถือว่าเป็นการมอบของขวัญให้กับประชาชนในช่วงปีใหม่นี้อย่างเป็นรูปธรรม