"ลุงวัย 46" โดนลูกชายโกหกว่าถูกแก๊งเงินกู้เรียกค่าไถ่ ที่แท้จะเอาเงินไปใช้เอง!
5 ก.ย. 2562, 14:32
วันนี้ (5 ก.ย.62) ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า จ.อุดรธานีรายงานความคืบหน้าจากกรณีนายวิเชียร (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ชาวสกลนคร ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอุดรธานีว่าลูกชายโดนอุ้มเรียกค่าไถ่ หลังไปติดหนี้แก๊งเงินกู้ จำนวน 45,000 บาท หากไม่นำเงินมาคืนโดยเร็ว พวกตนเองซึ่งเป็นแก๊งเงินกู้จะถูกฆ่าลูกชายให้ตายตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดวันนี้ นายวิเชียร (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ชาวอ.วานรนิวาส จ.สกลนคร พร้อมภรรยา ได้เข้าพบกับ พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อรับฟังผลการสืบสวน
พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นการเข้าใจผิดมากกว่า และจากการสืบสวนพิสูจน์ทราบว่าไม่น่าจะเป็นความจริงตามที่พ่อกับแม่ได้แจ้งความไว้ อาจจะเป็นเหตุผลที่ลูกชายลูกชายอาจจะขัดสนเรื่องเงินก็เลยกุเรื่องขึ้นมา หาเหตุผลหาข้ออ้างมาบอกพ่อกับแม่เพื่อที่จะได้นำเงินไปใช้ ตอนนี้เจ้าตัวติดต่อยืนยันมากับพ่อแล้วว่าปลอดภัยดี เชื่อว่าน่าจะกลับมาบ้านภายในเร็วๆนี้ ทั้งนี้ขอฝากไปยังประชาชนที่อ่านข่าวนี้ “ในการทำอะไรต้องคิดให้ดี อย่าพูดอะไรที่มันไม่มีมูลความจริงพยานหลักฐาน อาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่อยู่รอบข้าง ครอบครัว และบุคคลอื่น เหตุลักพาตัวก็จะเป็นเรื่องที่เจ้าที่ตำรวจต้องเดือดร้อนมาก ต้องมาติดตามคดีความนี้เป็นคดีอาญา” อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามติดตามลูกชายคนนี้ได้ได้โดยเร็วและจะถามว่าทำแบบนี้เพราะเหตุผลอะไร
ขณะที่นายวิเชียรฯ เปิดเผยว่า ภายหลังว่าลูกชายโกหก ก็ไม่ได้โอนเงินให้อีกทั้งก็ไม่มีเงินจะโอน แต่หากลูกชายเป็นหนี้ใครก็คงจะนำเงินไปจ่ายให้เหมือนเดิม เป็นลูกพ่อแม่ก็รักทุกคนแม้จะทำผิดแค่ไหนก็ตาม ตอนที่ลูกชายโทรมาบอกว่าถูกแก๊งทวงหนี้นอกระบบเรียกค่าไถ่ ตนเองโทรก็พยายามโทรไปหาลูกชายหลายครั้งเพื่อขอคุยกับเจ้าหนี้ แต่ลูกชายก็บอกว่าเจ้าหนี้ไม่คุย จุดนี้เป็นพิรุธ ที่คิดว่าลูกชายโกหก สุดท้ายเพื่อนสนิทลูกชายมาบอกว่า ไม่ได้ติดหนี้เงินกู้แน่นอน คงไปยืมเงินเพื่อนหรือต้องการใช้เงินทำอะไรสักอย่างจึงกุเรื่องขึ้นมา จึงได้โทรไปหาลูกชายอีกครั้งเขาก็ยอมบอกว่าไม่ได้ติดหนี้นอกระบบ อยากจะใช้เงินนั่นเอง
นายวิเชียร กล่าวต่อไปอีกว่า ก่อนที่จะมาแจ้งความเมื่อทราบข่าวว่าลูกถูกจับเรียกค่าไถ่ ตนคิดว่าจะผูกคอตายด้วยซ้ำไป แต่คิดไปคิดมาเข้ามาแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยหาก่อนดีกว่า ตนเองมีลูกชาย 2 คน สำหรับผู้ชายคนนี้เป็นคนโตมีนิสัยคล้ายผู้หญิง ชอบร้องเพลงฟังลำหมอลำเป็นชีวิตจิตใจ ที่ไหนมีหมอลำก็จะไปชม ตอนนี้ตนเองยังไม่พบกับลูกชาย อยากจะฝากบอกถึงลูกชายผ่านสื่อว่า อย่าทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจมากกว่านี้เลย ให้มาพบพ่อกับแม่ พ่อแม่ให้อภัยทุกอย่าง ตอนนี้ทุกข์ใจมาก คิดด้วยซ้ำว่าจะไปผูกคอตาย ลำพังเงินเดือนพ่อทำงานที่ฟาร์มสุกรได้เงินเดือนๆ ละ 10,000 บาทค่าใช้จ่ายในบ้านก็ไม่พอแล้ว กลับมาเถอะลูก หากพ่อกับแม่จากไปแล้วลูกจะอยู่กับใคร นายวิเชียรกล่าวตอนท้าย