"ผู้การชลบุรี" ทำแผนหนุ่มโรงงานติดหนี้ คิดสั้นปล้นเงินธนาคาร 4 ล้าน แต่ไม่รอด
5 ก.ย. 2562, 15:13
เวลา 9.30 น. วันที่ 5 ก.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรศรีราชาพร้อมนำกำลังไปที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาแยกชากค้อ ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังพนักงานของธนาคากรุงเทพ แจ้งว่า พลเมืองดี ทั้งการ์ดร้านทองฝั่งตรงข้าม คนขี่ จยย. รับจ้างจำนวน 7-8 คน เข้าไปในธนาคาร ช่วยกันจับกุม นายณัฐดนัย สมบูรณ์ อายุ 40 ปี อาชีพรับจ้างเป็นซับคอนแทรกภายในโรงงานแห่งหนึ่ง ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี อยู่บ้านเลขที่ 322/22 ม.8 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟสีแดง หมายเลขทะเบียน จตย 61 ชลบุรี มาจอดหน้าธนาคารแล้วเข้าไปใช้มีดทำครัว บุกไปที่พนักงานธนาคาร เคาร์เตอร์ที่ 1 แล้วทำให้พนักงานตกใจวิ่งหนี แล้ววิ่งเข้าไปที่ห้องตู้เซฟเก็บเงินข้างกัน โดยที่ตู้เซฟเปิดทิ้งไว้ โดยกุญแจคาอยู่ จากนั้นก็หยิบชิงเอาเงินสด 4 ล้านบาท ใสกระเป๋าสีแดง ที่นำติดตัวมา แต่ไปไม่รอด เพราะพนักงานของธนาคาร กดปิดล็อคประตูชั้นล่างทั้งหมด ทำให้นายณัฐดนัย ไม่สามารถหนีออกไปได้
ประกอบกับ รปภ.ธนาคาร ได้วิ่งไปขอร้องให้ กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างและการด์ร้านทองฝั่งตรงข้าม ก็วิ่งเข้าไปช่วยกันจับได้ที่ ชั้น2 ของธนาคาร ระหว่างที่กำลังจะปีนหน้าต่างหลบหนี พร้อมยึดของกลาง ทั้งเงิน 4 ล้านบาท กระเป๋าสีแดง มีดทำครัว และรถ จยย.
ต่อมา พลตำรวจตรี นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อม พ.ต.อ.เมฆาวิศ ประดิษฐ์ผล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี จึงได้เดินทางไปที่ธนาคาร เพื่อสอบสวนด้วยตัวเอง
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า คนร้ายยอมรับสารภาพว่า เป็นลูกค้าของธนาคาร และเดินทางมาทำธุรกรรมด้านการเงินที่นี่เป็นประจำ จึงคิดว่า สามารถมองเห็นช่องทางที่จะเข้าจี้ชิงเงินธนาคารแห่งหนึ่งโดยง่าย
ก่อนเกิดเหตุ จึงได้ขี่ รถ จยย.มาจอดที่หน้าธนาคาร แล้วเดินไปทางประตูหน้า แล้วเข้าไปกดบัตรคิว จากนั้นก็เดินไปที่ เคาร์เตอร์ช่อง 1 โดยมี น.ส.วัฒนา คล้ายสังวาลย์ เป็นพนักงานธนาคารนั่งอยู่ ก็หยิบมีดทำครัวที่เตรียมมาจี้ แต่น.ส.วัฒนา ตกใจกลัว จึงวิ่งหนีเข้า 0E44 ด้านใน นายณัฐดนัย จึงวิ่งตามไป พบตู้เซฟใบใหญ่ที่เก็บเงินของธนาคาร จึงเดินเข้าไปเปิดตู้เซฟ เพราะเจ้าหน้าที่ เปิดทิ้งไว้ และมีกุญแจเสียบอยู่ จึงเข้าไปหยิบเงิน 4 ล้านใส่กระเป๋าดังกล่าว วิ่งออกมาเพื่อจะหนีที่ประตู กลับเปิดไม่ได้ และวิ่งไปที่ ชั้น 2 จะกระโดดหนีทางหน้าต่าง แต่ พลเมืองดีต่างวิ่งกรูกันไปช่วยจับ ล๊อคตัวไว้ได้
พล.ต.ต. นันทชาติ ยังกล่าวว่า สาเหตุที่มาจี้เงินในธนาคาร ยอมรับว่า เป็นหนี้สินล้นพ้นตัว ทั้งในระบบและนอกระบบ เพื่อต้องการนำเงินใช้หนี้ ทั้งเรื่องบ้าน เรื่องรถ และเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว จึงตัดสินมาลงมือก่อเหตุ แต่ไปไม่รอด ถูกจับซะก่อน และต้องยอมรับว่า ธนาคารมีระบบที่มีการซ้อมแผนกับตำรวจมาอย่างดี เพราะเมื่อก่อนเหตุ ก็ปิดประตูทำให้คนร้ายไม่ได้หนีง่าย ๆ และทำให้ถูกจับกุม ได้ของกลางคืนทุกบาททุกสตางค์ด้วย ถูกดำเนินคดีในข้อหา ใช้อาวุธจี้ชิงทรัพย์ ไว้ก่อน จากนั้นก็ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที
นอกจากนี้ พล.ต.ต.นันทชาติ ยังกล่าวว่า ตนได้กำชับตำรวจให้เพื่อความถี่ในการมาตรวจตราความเรียกร้อยและปลอดภัยของธนาคารแห่งนี้มากขึ้น เพราะการจี้ชิงทรัพย์คันนี้ เป็นครั้งที่ 2 จากครั้งที่ เมื่อวันที่ 29 ก.ย.59 ก็ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนและสเปรย์พริกไทย ได้เงินสด 1 ล้าน แต่คนร้ายก็ถูกจับกุมได้ พร้อมยึดของกลางคืนทั้งหมดในเวลาไม่ถึง 24 ชม.