จากกรณีการเผยแพร่หญิงชราวัย 67 ปี ไม่มีเงินนำศพลูกชายออกจากโรงพยาลย้ายไปวัด เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาได้  ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ที่กู้ภัยสว่างสระบุรี จุดพระฉาย พบนาย นันทชัย เจียมเจริญ อายุ 35 ปี รองหัวหน้ากู้ภัยสว่างจุดพระฉาย และเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี เล่าให้ฟังว่า ได้มีนางสังเวียน วงจัน และนาง น.ส.กันญารัตน์ เลาคา ติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยสว่างจุดพระฉายว่า พอจะมีรถเคลื่อนย้ายศพแบบไม่มีค่าใช้จ่ายและโลงศพที่บริจาคให้ฟรีไหมค่ะ เนื่องจากว่า ทางนางสังเวียน และ น.ส.กันญารัตน์ ไม่มีเงินที่จะนำศพย้ายไปที่วัดได้

ทางกู้ภัยสว่างจึงได้สอบถามว่า ศพอยู่ที่ไหน  ได้คำตอบว่า อยู่ที่ รพ.เกษมราชฎ จ.สระบุรี กู้ภัยสว่างจึงได้ออกไปช่วยเหลือ และนำรถบรรทุกโลงศพ ไปที่ รพ.เกษมราช ได้พบ ยายสังเวียน กำลังร้องไห้ดูศพลูกชายอยู่ พอเห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างมา ก็โผล่เข้ามากอดและขอบคุณที่มาช่วย  เจ้าหน้าที่จึงได้จัดการนำศพลูกชายของยายสังเวียน ไปยังวัดวังแพ  ที่หมู่ 9 ต.ชำผักแพรว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี   ซึ่งอยู่ห่างบ้านของยายสังเวียน ประมาณ 500 เมตร  เพื่อให้ญาติๆตั้งศพบำเพ็ญกุศลต่อไป

 

เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างได้สอบถามนางสังเวียน เล่าให้ฟังว่า  ตนเองมีลูกชายอยู่ 2 คน อีกคนหนึ่งไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ตนได้อยู่กินกับ นายทนงศักดิ์ วงจัน อายุ 39 ปี เป็นลูกชายคนโตที่พิการเป็นใบ้และหูหนวก ทำอะไรไม่ได้เลย  อยู่ด้วยกัน 2 คน  ตนมีอาชีพเก็บผักขาย ได้วันละ 30-40 บาท เพื่อมาจุนเจือเลี้ยงลูกที่พิการไปวันๆ ส่วนเรื่องที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ภายในบ้าน มาเป็นเวลานานแล้ว เพราะที่ของตนเป็นที่ตาบอด ไม่สามารถที่จะเอาเสาไฟฟ้าลงได้  เนื่องจากต้องผ่านที่ของคนอื่นเขาไม่ให้เอาเสาไฟฟ้าลงในที่ของเขา จึงไม่มีไฟฟ้าใช้เลย ถึงเจ้าของที่จะให้เอาเสาไฟฟ้าลงในที่ของเขาก็ไม่มีปัญญาเอาเสาไฟฟ้าลง เพราะว่าตนเองไม่มีเงิน  เลยต้องใช้ตะเกียง ไฟฉาย และเทียน มาโดยตลอด

ต่อมาลูกชาย นาย สมพงษ์ วงจัน อายุ 37 ปี ลูกชายคนเล็กของตนเองที่เสียชีวิต ได้กลับมาอยู่ตนเองพร้อมกับน.ส.กัญญารัตน์ เลาคา อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของลูกชาย และได้เป็นเสาหลักหาเลี้ยงตนเองและพี่ชายที่พิการมาได้ไม่ถึงปี ก็ได้เกิดมีการเจ็บป่วยลง จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล 1 คืน และหมอให้กลับมานอนที่บ้านได้วันเดียว ก็ต้องพาเข้าโรงพยาบาลอีกเป็นครั้งที่ 2  พอตกกลางดึกก็ทราบข่าวว่าลูกชายได้เสียชีวิตแล้ว  ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง  ทำให้ตนเองเสียใจ และก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ทั้งๆที่ไม่มีเงินติดตัวเลย ไหนจะต้องจ่ายเงินให้กับทางโรงพยาบาลก่อนนำศพออกอีกพันกว่าบาท และต้องนำศพลูกชายไปไว้วัดอีก เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา จึงต้องให้ลูกสะใภ้ออกไปหายืมคนอื่นเขามาเป็นค่าใช้จ่าย ได้มาก็ไม่กี่พันบาท ดีว่าทางกู้ภัยสว่างได้ โพสลงเพจ’’กู้ภัยสว่างสระบุรี จุดพระฉาย’’  แล้วเอาเลขบัญชีธนาคารออมสินของตนไปลงด้วย เพื่อประกาศขอความช่วยเหลือให้ช่วยครอบครัวของตนที่ไม่มีเงินทำศพ และไม่มีไฟฟ้าเข้าบ้าน