วันนี้ 29 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากแม่ค้าชาวปทุมธานีว่าให้ช่วยสกัดจับคนขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ แคปสีเทาดำ ล้อแม็กซ์สีทอง  เนื่องจากคนขับลุกมาจากจังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ ตชด.135 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ ตม.ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน ให้ช่วยกันสกัดจับ

ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะคันดังกล่าววิ่งมาจากทางด้านตลาดอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ได้พยายามส่งสัญญาณเพื่อเรียกให้หยุดพร้อมกับนำรถยนต์สายตรวจไปขวางถนนเอาไว้ แต่ผลปรากฏว่าคนขับไม่ยอมแถมยังเหยียบคันเร่งพุ่งชนรถยนต์สายตรวจจนได้รับความเสียหาย โดยชายคนดังกล่าวได้ขับหลบหนีไปตามเส้นทางถนนสาย 323 มุ่งหน้าตัว อ.เมืองกาญจนบุรี

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขับรถยนต์ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง รวมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี คอยให้การสนับสนุนอยู่ข้างหลัง โดยรถยนต์คันดังกล่าวที่กำลังขับหลบหนีนั้นใช้ความเร็วสูงประมาณ 170-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอยู่หนึ่งจังหวะเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้พยายามเร่งเครื่องแซงเพื่อขวางด้านหน้าเอาไว้ แต่ก็ไม่สำเร็จโดยรถยนต์สายตรวจเกิดเสียหลักหมุนกลับอย่างรวดเร็วแต่โชคดีที่ไม่ถูกรถยนต์ของคนร้ายพุ่งชน

โดยเจ้าหน้าที่เห็นท่าไม่ดีเนื่องจากคนร้ายใช้ความเร็วสูงจึงประสานไปยังจุดตรวจ ตม.ที่อยู่ใกล้กับน้ำตกไทรโยคน้อย อ.ไทรโยค เพื่อให้ช่วยกันสกัดจับอีกทางหนึ่งแต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากคนขับได้ขับแหกด่านด้วยวามเร็วสูง เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงสนธิกำลับขับรถยนต์ไล่ล่าติดตาม พร้อมประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี เขาร่วมสมทบเพื่อสกัดจับบริเวณจุดหน้าป้อมตำรวจบ้านสามพราน แต่การสกัดจับก็ไม่เป็นผลเช่นกันเนื่องจากคนขับใช้ความเร็วสูง ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงขับรถยนต์ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดจนกระทั่งถึงบริเวณหน้าสวนเมเปิ้ล การ์เด้น หมู่ 4 ต.ลาดหญ้า องเมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่พบว่าปริมาณการจราจรมีรถหนาแน่น ทำให้รถของคนร้ายชะลอตัว เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้ความเร็วแซงไปจอดขวางด้านหน้าเอาไว้ สุดท้ายคนร้ายจึงจำนนลงจากรถเพื่อมอบตัว โดยภายในรถยนต์มาด้วยกัน 2 คน เป็นสามีภรรยากัน

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังคุมตัวทั้งสองเอาไว้ ปรากฏว่าผู้เสียหายและญาติประมาณ 4-5 คนที่ขับรถยนต์ติดตามมาตั้งแต่อำเภอทองผาภูมิ ได้ลงมาจากรถแล้ววิ่งไปลงมือตบตีสองสามีภรรยาด้วยความโมโหจนเกิดการชุลมุน แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถกันตัวเอาไว้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมรถยนต์ของกลางไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ทองผาภูมิ ทราบชื่อต่อมาคือนายสมหมาย อายุ 27 ปี และ น.ส.อ่อง ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา อายุ 26 ปี 

ผู้เสียหายที่ติดตามมาเล่าว่า ตนมีอาชีพขายส่งขนมอยู่ที่อำเภอสามโคก จ.ปทุมธานี ส่วนนายสมหมายและนางสาวอ่อง เป็นลูกน้องอยู่ที่ร้าน นายสมหมายมีหน้าที่ขับรถยนต์กระบะไปส่งขนมให้กับลูกค้าที่สั่ง ส่วนนางสาวอ่องมีหน้าที่ขายขนมอยู่ที่หน้าร้าน ที่ผ่านมาตนดูแลลูกน้องทั้งสองเป็นอย่างดีเพราะรักเหมือนลูกหลาน

จนกระทั่งวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งสองไม่ได้มาทำงานโดยหายตัวไปพร้อมกับกับรถยนต์ที่ใช้ส่งขนม ด้วยความเอะใจตนจึงไปตรวจเช็คภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ ผลปรากฏว่าภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้อย่างชัดว่า โดยนางสาวอ่อง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาส่งนายสมหมายสามีที่หน้าร้าน จากนั้นเวลาประมาณตีสี่เศษนายสมหมายก็ได้ขับรถยนต์ออกไป และจากการสอบถามไปยังลูกค้าที่นำขนมไปส่งทราบว่านายสมหมายได้ไปเก็บเงินค่าขนมไปหลายร้าน ค่าเสียหายหลายหมื่นบาท เมื่อทราบข้อเท็จจริงจึงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ที่ สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี

โดยเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมาตนไปพบนายสมหมายขับรถยนต์ของตนอยู่ภายในจังหวัดปทุมธานี จากนั้นจึงขับรถติดตามแต่ก็ตามไม่ทันเพราะนายสมหมายรู้ตัวเสียก่อน เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงตรวจเช็กสัญญาณจีพีเอสที่ติดเอาไว้ภายในรถยนต์ ผลปรากฎว่าคืนที่ผ่านมาพบสัญญาณของรถยนต์จอดอยู่ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ ดังนั้นพวกตนจึงรีบขับรถมาจากอำเภอสามโคก มุ่งหน้ามาอำเภอทองผาภูมิ และจากการตรวจสอบสัญญาณครั้งสุดท้ายพบรถยนต์ขับออกจากรีสอร์ทในเวลา 06.50 น.วันนี้ (29 ธ.ค.)จึงรีบโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิช่วยกันสกัดจับ จนในที่สุดก็สามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ โดยหลังจากพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ สอบปากคำแล้วเสร็จ จะส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.สามโคก จ.ปทุมธานีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่มีความระทึกเหมือนกับในหนัง เพราะนายสมหมายผู้ต้องหาขับหนีด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่สกัดจับในแต่ละด่านได้พยายามใช้กรวยโยนขวางแต่คนขับก็ไม่ยอมจำนน โดยนายสมหมายได้ขับรถยนต์แหกด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 6 ด่าน เป็นระยะทางประมาณเกือบ 150 กิโลเมตร และจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่านางสาวอ่อง เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 4 ปี ละเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำเมื่อเดือนสิงหาคม 64 ที่ผ่านมา