วันที่ 6 กันยายน 2562 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรขลุง เชษฐา โกมลวรรธนะ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรขลุง ได้นำตัว นายพงษ์ศักดิ์ หรือบ่าว หมวดทอง อายุ 40 ปี ผู้ที่ประกอบระเบิด นายสมใจ หรือหมึก คลองใหญ่ อายุ 27 ปี ผู้ที่นำระเบิดไปวาง และนายตะวัน หรือกอก ปรีดีวงศ์ อายุ 23 ปี เป็นผู้ที่ขี่รถจักรยานยนต์ สับเปลี่ยนระหว่างหลบหนี และนายชนินทร์ หรือนิน ปัญญา อายุ 29 ปี คนร้ายที่ขี่รถจักรยานยนต์ เป็นพาหนะในการก่อเหตุ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 คนร้ายได้ใช้ระเบิดวางตู้เอที เอ็ม ของธนาคารกรุงเทพ หน้าสหกรณ์เครคิตยูเนียน อิมั้ง ตำบลซึ่ง อ.ขลุง จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นครั้งแรก จากนั้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2562 คนร้ายทั้งหมด ได้ก่อเหตุวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารออมสิน หน้าห้างค้าปลีก ตำบลวันยาว อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เป็นที่ครั้งที่ 2 ซึ่งทั้ง 2 ครั้ง คนร้ายให้การยอมรับสารภาพว่าเพื่อหวังเงินภายในตู้เอทีเอ็ม แต่การวางระเบิดทั้ง 2 ครั้ง คนร้ายไม่สามารถได้เงินสดภายในตู้เอทีเอ็มไปแม้แต่บาทเดียว เนื่องจากตู้เอทีเอ็มของแต่ละธนาคารมีระบบการป้องกันเป็นอย่างดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร

 

 

 

 

 

 

 

จังหวัดจันทบุรี ตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจภูธรขลุง จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว และแกะลอยจากกล้องวงจรปิด จนรู้ตัวว่าคนร้ายเป็นใคร ก่อนที่จะขออนุมัติศาลจังหวัดจันทบุรี ออกหมายจับ และนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด 3 คน โยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายทั้งหมดได้ที่บ้านพักของคนร้ายในพื้นที่ตำบลซึ้ง อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ทั้งนี้ นายสมใจ หรือหมึก คลองใหญ่ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรขลุง จับกุมตัวได้ก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนที่จะขยายผลจับกุมคนร้ายที่เหลือได้ทั้งหมด

สำหรับ นายสมใจ หรือหมึก คลองใหญ่ มีความเชี่ยวชาญในการทำระเบิดปลา ต่อมามีอาชีพเป็นช่าง จึงได้นำวัสดุเหลือใช้จากสถานที่ทำงานมาประกอบเป็นระเบิดที่ใช้ในการก่อเหตุ ระเบิดตู้เอทีเอ็ม ทั้ง 2 แห่ง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุทั้ง 2 จุด ต่อไป