"ลูกจ้างร้านค้าเหล็ก" เก็บเงินได้กว่า 8.7 หมื่นบาท ส่งสถานีตำรวจประกาศหาเจ้าของ
6 ม.ค. 2565, 09:39
วันนี้ (5 ม.ค.65) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้รับทราบจากเพชบุ๊คของ สภ.ศีขรภูมิจ.สุรินทร์ว่าได้มีพลเมืองดีได้เก็บกระเป๋าสตางค์ที่ทำหล่นหายได้และได้นำส่งให้กับ สภ.ศีขรภูมิจ.สุรินทร์เพื่อประกาศหาเจ้าของโดยในเวลาต่อมามีผู้มาแสดงตนตัวขอรับพร้อมกับดีใจและขอขอบคุณพลเมืองดีท่านนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
ภายหลังจากที่ สภ.ศีขรภูมิจ.สุรินทร์ได้โพสต์ออกไปผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามผู้ที่เก็บเงินได้ทราบชื่อคือนาย ประสิทธิ์ ไหมทอง อายุ 53 ปี รับจ้างทำงานอยู่ที่ร้านธนาวัฒน์ค้าเหล็กซึ่งตั้งอยู่ติดถนนเส้นทางทางถนนสายศีขรภูมิ-สุรินทร์ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามนายประสิทธิ์ ผู้ที่เก็บเงินได้โดยได้บอกว่าในวันเวลาดังกล่าวตนเองได้พาเพื่อนร่วมงานไปซื้อกับข้าวที่ร้านอาหารปักษ์ใต้ในระหว่างที่เดินไปตามถนนไปพบกระเป๋าเงินหล่นอยู่กลางถนนข้างเสาไฟฟ้าทีแรกคิดว่าแต่เป็นเงินแบงก์ปลอมที่คนเขาทำมาทิ้งเอาไว้หลอกคนเล่นตนเองจึงได้หยิบนำขึ้นมาดูและนำมาให้เจ้าของร้านอาหารปักษ์ใต้ดู ยืนยันว่าเป็นเงินจริง และได้นับเงินก็พบว่ามีเงินจำนวนแบงก์พันจำนวน 87,000 บาทโดยทางได้ปรึกษากันและนำมาให้กับนายธนบูรณ์ งามศรีเทพฤทธิ์ เจ้าของและผู้จัดการร้านเหล็กนำไปแจ้งความไว่ที่ สภ.ศีขรภูมิ เพื่อประกาศหาเจ้าของที่แท้งจริงเพราะคงจะลำบากมาก
หลังจากนั้นได้มีประกาศและแชร์โพสต์ออกไปจนกระทุ่งมีผู้แสดงตัวมารับทราบคือสุภาพสตรีท่านหนึ่งทราบชื่อคือนางสมนิด สำนักนิตย์ อายุ 53 ปีบ้าน เลขที่ 45 ม.1บ้านจารย์ ตำบลหนองเหล็ก อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์และได้เดินทางมารับเงินที่ สภ.ศีขรภูมิ ครบตาม จำนวนหลังจากนั้นเจ้าของเงินก็ได้มอบเงินจำนวน 5,000บาท ให้กับนายประสิทธิ์ ไหมทอง ที่ทำงานเพื่อแสดงความขอบคุณ ที่เก็บเงินได้แล้วมีน้ำใจส่งคืนให้ พร้อมบอกว่าเงินจำนวนดังกล่าว เบิกมาจากธนาคารจะนำไปใช้หนี้ และได้ลงจากรถไปชื้อต้นไม้ โดยไม่ทราบว่ากระเป๋าเงินหลนช่วงไหน พอจะเอาเงินจ่ายค่าต้นไม้ จึงมารู้ว่ากระเป๋นเงินหาย สุดเสียใจมากมาก แต่เมื่อได้กลับคืน ก็ขอบคุณคนเก็บเงินส่งคืน ขอบตำรวจด้วยขอบคุณทุกคน
ทางด้านนายธนบูรณ์ งามศรีเทพฤทธิ์ เจ้าของร้านธนาวัฒน์ค้าเหล็กกล่าวว่าตนเองรู้สึกดีใจที่ลูกน้องของตนที่ไปเก็บเงินของชาวบ้านได้จำนวนมากแต่ไม่ได้นำเงินมาใช้เป็นส่วนตัวและเงินดังกล่าวก็ไม่ระบุที่มาที่ไปเพราะในกระเป๋าก็ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนและหลักฐานยืนยันอื่นๆมีแต่เงินสดเท่านั้นและการทำคุณงามความดีของลูกน้องตนในครั้งนี้และลูกน้องของผมคนนี้ทำงานรับจ้างวันละ 320 บาท ต่อวัน มีครอบครัวแล้วสถานะมีความยากจนแต่เงินที่เก็บมาได้นำมาให้ตนนำไปแจ้งความให้กับเจ้าของเงินมารับกลับไปและเจ้าของเงินก็ดีใจและได้มอบสินน้ำใจให้จำนวนเงิน5,000บาทถึงว่าไม่มากแต่ก็ถือว่ามีสินน้ำใจและเงินที่เก็บได้มันก็ไม่ใช่เงินของเรานายธนบูรณ์ กล่าว