"สาวกาญจนบุรี" ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบข่มขู่ ทวงหนี้ เครียดมากคิดลาโลกหนีหนี้ !
7 ม.ค. 2565, 13:45
วันนี้ 7 ม.ค. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา บรรดากู้เงินนอกระบบได้ถูกเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ตามทวงเงินดอกที่ไปกู้มา แต่สาวเหล่านี้ส่งไม่ทัน โดนเจ้าหนี้ข่มขู่ จึงได้รวมตัวพากันเข้าไปแจ้งความ ที่สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมนำหลักฐาน เอกสารสลิปการโอนเงิน รวมทั้งแค็ปหน้าจอโทรศัพท์เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี 6 ราย สภ.พนมทวน สภ.หนองขาว และอีกหลาย สภ. แยกกันไปตามที่ผู้กู้ได้ทำเรื่องกู้เงินบางรายกู้มานับแสนบาท จ่ายดอกเบี้ยวันละ 7,000 – 8,000 บาท บางวันหาไม่ได้เงินติดตัวแค่ร้อยบาทเพื่อซื้อข้าวกินก็ต้องถูกรีดเอาไปไม่มีการยกเว้น
สาเหตุจากการถูกเจ้าหนี้แก๊งเงินกู้ดอกลอยรายใหญ่ ส่งลูกน้องซึ่งเป็นคนมีสีโทรศัพท์ข่มขู่ทวงหนี้รายวันแบบเก็บดอกลอยไม่จบไม่สิ้น โทรมาทวงหนี้ทุกวันสร้างความเดือดร้อน หวาดกลัว ให้แก่บรรดาลูกหนี้ที่ทำมาหากินอย่างสุจริต เบื้องต้นมีจำนวน 1 ราย ที่สามารถแจ้งความได้ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี สภ.หนองขาว 1 ราย สภ.พนมทวน 1 ราย สภ.ด่านมะขามเตี้ย และ สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ส่วนรายอื่นๆ จะต้องทยอยเดินทางมาแจ้งความในวันอื่นๆ ต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามและตรวจสอบเอกสารต่างๆ พบว่า เหตุเกิดมีอยู่หลายพื้นที่ มีอยู่รายเดียวที่เกิดขึ้นในเขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี จึงรับแจ้งความไว้โดยนัดหมายให้มาสอบปากคำรวบรวมหลักฐานในวันต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งว่า เหตุเกิดที่ใดให้ไปแจ้งความพื้นที่นั้น
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางมินตา (นามสมมุติ) และหญิงสาวทั้ง 6 ราย ที่เป็นลูกหนี้ ต่างให้การว่า ที่เดินทางมาครั้งนี้ เพราะทนไม่ไหวแล้ว ที่มาแจ้งความครั้งนี้ ไม่ใช่จะเบี้ยวไม่ใช้หนี้ เป็นหนี้ก็ต้องชดใช้ แต่มันเกินไป กู้เงินมาหนึ่งหมื่น ได้เงินเพียงแปดพันบาท อีกสองพันต้องถูกหักออก บางคนกู้มาสามหมื่นบาท ตอนนี้ดอกเบี้ยรวมทั้งเงินต้น 3 แสนกว่า เก็บดอกทุกวัน วันละ 900 บ้าง 800 บ้าง พอไม่มีให้ วันนั้นก็ถูกคนโทรศัพท์มาพูดจาข่มขู่ บอกถ้าไม่จ่าย ระวังจะถูกนำเรื่องราวไปแชร์ลงในออนไลน์ให้ได้รับความอับอายในสังคม ทุกวันนี้ไม่เป็นอันทำมาหากินแล้ว ไหนต้องใช้หนี้สินที่หมดไปแล้ว แต่ยังต้องจ่ายดอกลอยอยู่ ขายของก็ขายไม่ดี เศรษฐกิจฝืดเคือง ไหนจะโรคระบาด ไหนจะถูกคนมีสีโทรศัพท์พูดจาข่มขู่ จนเกิดความหวาดกลัว
ด้านนางเอ(นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนได้แอบสามีไปกู้เงินมา 30,000 บาทกับแก๊งเงินกู้แก๊งนี้เพื่อมาหมุนเวียนในธุรกิจ ต้องจ่ายดอกเบี้ยทางบัญชีออนไลน์เป็นประจำทุกวัน อยู่ๆ ได้เกิดทะเลาะมีปากเสียงกับสามี จึงแยกกันอยู่ชั่วคราว โดยที่สามีไม่รู้เรื่อง ต้องส่งดอกเบี้ยรายวันวัน 900-1,000 บาท นานกว่า 3 เดือน โดยส่งแต่ดอกเบี้ยไม่มีการหักเงินต้น ซึ่งเงินท่วมต้นแล้ว แต่ก็ยังต้องจ่ายค่าดอกเบี้ย วันไหนไม่มีให้ก็ถูกโทรข่มขู่ ซึ่งคนข่มขู่เชื่อว่าน่าจะเป็นตำรวจที่รับจ้างมา
นางเอ กล่าวต่อว่า ตนต้องตกอยู่ในสภาพที่ทุกข์ทรมาน จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยการขับรถลงคลองชลประทาน เพราะต้องการเอาเงินที่ทำประกันอุบัติเหตุไว้ไปใช้หนี้แก๊งเงินกู้ดอกลอยแก๊งนี้ ดีที่สามีและญาติๆ ช่วยไว้ได้ทัน ได้พูดจาหว่านล้อมเตือนสติ และพาเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับสื่อฯ และแจ้งตำรวจเพื่อขอความเป็นธรรมกับตำรวจ ให้ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยกรณีรายไหน ที่ส่งดอกเบี้ยจนท่วมเงินต้นหมดแล้ว ก็ขอให้หยุดเก็บดอกเบี้ย ส่วนรายไหนที่ยังเก็บไม่หมด ก็ช่วยลดดอกเบี้ยลง เพราะตอนนี้ทำมาหากินฝืดเคืองมาก จนแทบจะไม่มีเงินส่งดอกเบี้ยรายวันกันอยู่แล้ว ในจำนวนลูกหนี้ที่ยังไม่ได้เดินทางมา มีสองพี่น้องซึ่งเป็นลูกหนี้ได้คิดสั้นกินยาฆ่าตัวตาย เพื่อหนีหนี้แก๊งเงินกู้ดอกลอยมาแล้ว แต่ญาติๆ ช่วยไว้ได้ทันจึงรอดตายหวุดหวิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แก๊งเงินกู้ดอกลอยรายวันในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มีอยู่หลายรายในจำนวนหลายแก๊งนี้เป็นแก๊งที่ใหญ่สุด มีเครือข่ายแยกสาขาไปอยู่ตามอำเภอต่างๆ 13 อำเภอ ที่คอยติดต่อหาลูกค้าที่เดือดร้อนเรื่องการเงิน โดยจะคัดเอาแต่รายที่มีอาชีพเป็นพ่อค้าแม่ค้าเท่านั้น คนไม่มีอาชีพจะไม่เอา
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการกรวดขันบรรดาแก๊งเงินกู้อย่างต่อเนื่อง เว้นระยะบรรดาปล่อยเงินกู้เหล่านี้ก็กระทำอีก และมีบางรายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขอหมายตรวจค้นจับกุมมาแล้ว ได้ของกลางเป็นโพยหวย และอาวุธปืนที่คนธรรมดา ไม่สามารถขออนุญาตมีไว้ในครอบครองได้ แต่ก็ขอได้เพราะ หน.แก๊งเงินกู้ดอกลอยรายนี้มีเส้นสายใหญ่โต จึงทำให้บรรดาแก๊งปล่อยเงินกู้ดอกลอย ต่างกระทำการปล่อยเงินกู้แบบผิดกฎหมาย สร้างรายได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะแก๊งที่หญิงสาวต่างทยอยเข้าแจ้งความ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบทรัพย์สินและเงินในบัญชี มีวงเงินปล่อยกู้ถึง 40 ล้านบาท และสาเหตุที่ต้องกู้ก็เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน เจอทั้งโควิด 19 การทำมาหากินก็ยากลำบาก จึงหันไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ สุดท้ายก็มาเจอปัญหา ผู้กู้ก็ย่ำว่าตนเองไม่ได้หนีหนี้แต่มันหาไม่ได้จริงๆ แล้วที่มาพึ่งเจ้าหน้าที่เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัย