เมื่อเวลา 17.00 น - 20.00 น. วันที่ 7 ม.ค.64  ทีสนามหน้าเทศบาลตำบลนาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 ให้กับ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ เบอร์ 1 หรือ “เลขาตาร์ท”  โดยมีแกนนำพรรคคนสำคัญได้แก่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ปชป. นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา ในฐานนะโฆษกพรรค  นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร และ ส.ส.ฝีปากกล้าของพรรคหลายคนมาช่วยปราศรัยหาเสียง โดยมีชาวบ้านกว่า 5,000 คน มาร่วมฟังจนเก้าอี้นั่งที่เตรียมไว้จำนวน 2,000 ตัวไม่เพียงพอ

โดยบรรดาแกนนำคนสำคัญของพรรค และ ส.ส.ได้สลับกันขึ้นเวทีปราศรัย ทุกคนได้กล่าวยกย่องวรีกรรมของ นายชุมพล จุลใส “ลูกหมี” อดีต ส.ส.ชุมพร เขต 1 และอดีตแกนนำ กปปส. ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพความเป็น ส.ส. ที่มาคอยต้อนรับให้กำลังใจและนั่งฟังอยู่ด้านหน้าเวที  โดยยก “ลูกหมี” เปรียบเสมือนวีระบุรุษของมวลมหาประชาชนของคนไทยทั้งประเทศ และเรียกร้องให้ชาวชุมพรลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครเบอร์ 1 คือ นายอิสรพงษ์ “เลขาตาร์ท” มากอำไพ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับ “ลูกหมี” เพราะเบอร์ 1 เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของ “ลูกหมี”  ที่ได้ต่อสู้เสี่ยงชีวิตทำเพื่อชาติบ้านเมือง จนต้องพ้นความเป็น ส.ส. ที่ไม่ได้เป็นความผิดเกี่ยวกับโกงกินบ้านเมือง ทุจจริตคอรับชัน เหมือนกับนักการเมืองหลายคน

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กล่าว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์สู้กับอำนาจที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข่าว เสธ ต.ส่งทหารลงมาในพื้นที่ชุมพร ซึ่งช่วงแรก ๆผู้เกี่ยวข้องฝ่ายได้ออกมาปฏิเสธ จนในที่สุด ผบ.ทบ. ก็ออกมายอมรับว่ามีจริง เป็นนายทหารอยู่ในกองทัพภาค 2  จึงต้องขอขอบคุณ ผบ.ทบ. และตนก็รู้ว่าการเอาทหารมากดดันในพื้นที่เลือกตั้งแบบนี้ไม่ใช่นโยบายของกองทัพ แต่เป็นพวกทหารนอกรีต ดังนั้น ผบ.ทบ.ต้องจัดการ

นายสาทิตย์กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ก็แปลกมากเพราะว่าคนของพรรค พปชร.บางส่วนต้องการเอาชนะให้ได้ ซึ่งตนรู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเพราะท่านไม่ได้บริหารพรรค พปชร. ตนจึงขอยก พล.อ.ประยุทธ์เอาไว้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ในพรรค พปชร.กำลังคิดอะไร คนกลุ่มนี้คิดจะล้ม พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ ซี่งมีข่าวลือว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกับตอนที่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่คิดจะล้ม พล อ.ประยุทธ์ แล้วเอานายของตัวเองขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ และยังมีข่าวอีกว่าคนกลุ่มนี้เตรียมจับมือกับกลุ่มคนเสื้อแดงในระบอบทักษิณ ซึ่งก็ไม่รู้จริงหรือเท็จ แต่ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงถือเป็นการหลอกลวงมวลมหาประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

“ลูกหมี” คือคนที่ต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองและยังเป็นคนที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จนทำให้พรรค พปชร. ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราก็คิดว่าด้วยเหตุผลนี้และมารยาททางการเมือง พรรค พปชร.ไม่ควรจะส่งผู้สมัครลงแข่งขัน ตอนแรกๆก็ประกาศว่าไม่ส่ง แต่ปรากฏว่ามีการกลับมติในภายหลังให้ส่ง เราก็สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ในที่สุดก็พบความจริงว่าเป็นเพราะอดีตคนของพรรค ปชป.ที่ตอนนี้ลาออกแล้ว ไปเป่าหูพรรค พปชร. จนกลับมติให้ส่งผู้สมัครลงแข่งขัน ตนรู้สึกเจ็บปวดมาก” นายสาทิตย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงวันเวลาเดียวกันที่ถนนตลาดสวี หน้าสถานีรถไฟอำเภอสวี ห่างจากเทศบาลตำบลนาโพธิ์ ประมาณ 600 เมตร จุดที่พรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีปราศรัยใหญ่  พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชวลิต อาจหาญ “ทนายแดง” เบอร์ 4 ได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่เช่นเดียวกัน โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. พร้อมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค และ ส.ส.ต่างจังหวัดจากภาคใต้และภาคกลางอีกหลายคนมาช่วยปราศรัยหาเสียง โดยมีประชาชนสนใจมาร่วมรับฟัง 1,000 คน

บนเวทีปราศรัย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้สวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ ให้กับ นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย อดีต ส.ส.ชุมพร 6 สมัย พรรคประชาธิปัตย์  ที่เพิ่งจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป. และเป็นคนที่พา นายชวลิต อาจหาญ หรือ “ทนายแดง” ไปพบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค จนมีการพลิกกลับมติพรรคให้ส่งทนายแดงลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1

พล.อ.ประวิตร กล่าวกับชาวบ้านว่า พรรค พปชร.เข้ามาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ช่วยเหลือแก้ปัญหาปลดหนี้ให้กับประชาชน ทั้งโครงการคนละครึ่ง บัตรประชารัฐ สวัสดิการแห่งรัฐ จึงขอให้มั่นใจพรรคพลังประชารัฐ และเลือกเบอร์ 4 นายชวลิต อาจหาญ “ทนายแดง” เป็น ส.ส.เขต 1 เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน

โดย พล.อ.ประวิตร ใช้เวลาปราศรัยพูดคุยอยู่บนเวทีไม่นานก็รีบกลับ เนื่องจากได้เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่ชุมพร เขต 1 หลายจุด ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเย็น ก่อนจะเดินทางมาขึ้นเวทีปราศรัยที่หน้าสถานีรถไฟอำเภอสวี พร้อมแกนนำของพรรคอีกหลายคน.