จากกรณีเจ้าหน้าที่ อช.ทองผาภูมิ ยึดซากเสือโคร่ง 2 ตัว หลังพบกลุ่มควันไฟขณะลาดตระเวนตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี  ก่อนวางแผนปิดล้อมจับกุม พรานล่าสัตว์ไหวตัวทันหลบหนีการจับกุมไปได้ เจ้าหน้าที่นำหลักฐานเข้าแจ้งความติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ล่าสุดวันนี้ (13 ม.ค.65)  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ นำโดย พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ และชุดปฏิบัติการทางน้ำ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ นำรถตู้เดินทางไปรับตัวผู้ต้องหา บริเวณจุดตรวจเชิงเขาบ้านไร่ ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ พบว่า ผู้ต้องหาที่ยอมเข้ามอบตัวกรณียิงเสือโคร่ง มี 4 คน 

 

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายกูกือ ยินดี อายุ 37 ปี ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บุคคลบนพื้นที่สูง บัตรสีชมพู) , นายจอแห่ง พนารักษ์ อายุ 38 ปี ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บุคคลบนพื้นที่สูง บัตรสีชมพู) , นายศุภชัย เจริญทรัพย์ อายุ 34 ปี ชาวตำบลปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และ นายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ อายุ 30 ปี เป็นน้องชายของนายศุภชัย เจริญทรัพย์

เบื้องต้น ทั้ง 4 คนให้การว่า มีอาชีพเลี้ยงวัว โดยช่วงประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา วัวของชาวบ้านถูกเสือโคร่งกัดตายร่วม 20 ตัว ไม่รู้จะทำยังไง จึงนำซากวัวที่ถูกเสือกัดมาเป็นเหยื่อล่อเสือ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ยิง คือปืนลูกซอง 5 นัด ยืมมาจากเจ้าหน้าที่ อปพร.เพื่อนำมาป้องกันตัวเท่านั้น

เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำผิดตามพรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14(2) และมาตรา 31(6) ในข้อหา “ร่วมกันเก็บหาของป่า อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต” และตามพรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19(3) มาตรา 43 ฐาน “ร่วมกันล่อ หรือนำสัตว์ป่าออกไป หรือกระทำให้เกิดอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใด ฐานร่วมกันเข้าไปดำเนินการกิจการใดๆ เพื่อหาประโยชน์” ตามมาตรา 19(6) และมาตรา 44 ฐาน “ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆเข้าไป” ตามมาตรา 19(7) และมาตรา 45 ฐาน “ยิงปืนหรือทำให้เกิดระเบิด หรือจุดดอกไม้เพลิง” ตามมาตรา 19 ( 8 ) และมาตรา 44 ฐาน “ทิ้งสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้” ตามมาตรา 19(9) และมาตรา 44 และตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่า”ตามมาตรา 17 และมาตรา 92