เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"อดีตสามี" CEO สาวไทบ้านทีวี แฉคลิปเสียงตกลงก่อนจะเลิกกัน ยันไม่ได้แอบจดทะเบียนสมรส


14 ม.ค. 2565, 10:25



"อดีตสามี" CEO สาวไทบ้านทีวี แฉคลิปเสียงตกลงก่อนจะเลิกกัน ยันไม่ได้แอบจดทะเบียนสมรส




นายคทาธร พิลาพงษ์ หรือแม็ค แท้ไทยนิยม อดีตนักร้องลูกทุ่ง เคยสังกัด ค่ายRS จำกัด มหาชน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ขณะเดินทางไปต่างจังหวัดว่า ก่อนเลิกรากันกับอดีตภรรยา ได้แบ่งสมบัติกันเรียบร้อยแล้วและมีสัญญาข้อตกลงห้ามมายุ่งเกี่ยวกัน ใครจะไปอย่างไรแต่งงานใหม่ก็ตามสะดวกสบาย แต่แปลกใจทำไมยังไปร้องทนายดังอออกสื่ออีก ผมเป็นลูกผู้ชายพอ เมื่อเป็นโสดแล้วผมจึงมาจดทะเบียนกับผู้ใหญ่เหมียว 

เมื่อเวลา 15:00 น วันที่ 13 ธ.ค.นายคทาธร พิลาพงษ์ หรือแม็ค แท้ไทยนิยม อายุ 45 ปีอดีตนักร้องลูกทุ่ง ชื่อดังหลายเพลง  เช่น น้ำตาขุนแผน และรักแท้ไม่แคร์เหตุผล เคยสังกัด ค่ายRS จำกัด มหาชน ปัจจุบันมีบ้านพักอยู่ที่เขตเทศบาลตำบลปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ได้คบหาอยู่กินฉันสามีภรรยาน.ส.มนธิรา มูลกระแส อายุ 33 ปี CEO ไทบ้านทีวี มาด้วยกัน 13 ปี หลังจากนั้นก็ได้ก่อร่างสร้างฐานตั้งบริษัทมาด้วยกัน 3 บริษัท โดยร่วมกันบริหารจนธุรกิจเติบโตขึ้นมา ส่วนมากก็ทำสื่อทีวีดาวเทียม มีไทยบ้านทีวี ช่อง 83 แฮปปี้ทีวี ช่อง 65 และขายเครื่องดื่มอาหารเสริมประสบผลสำเร็จเดินไปด้วยดี จึงได้สร้างบ้านสร้างอาณาจักรและมีทีมงานกว่า 30 ชีวิตอยู่ในบริษัท อยู่ดัวยกันมามีลูกชายวัย 8 ขวบด้วยกัน 1 คนส่วนภรรยาเขาก็มีบุตรกับสามีเก่ามาก่อนแล้ว ขณะที่ร่วมหมอนนอนเตียงเคียงคู่กันมา 13 ปีและก่อร่างสร้างตัวทำบริษัทมาด้วยกัน จนฐานะมั่นคงตนเองก็เคยรบเร้าขอจดทะเบียนสมรสกับคุณมนธิรามาตลอด แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงว่ายังมีปัญหากับบุตรกับสามีเก่าอยู่ถึงไม่สามารถจะจดทะเบียนกับเราได้ ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นเขาเองยังไม่เลิกทะเบียนกับสามีเก่า ข้อนี้ผมทราบดี ในเมื่อจดทะเบียนไม่ได้ก็อยู่ด้วยกันอย่างนี้ต่อไปก็ไม่เป็นไรแต่ก็เป็นห่วงว่าหากในอนาคตเกิดอะไรขึ้นเป็นอะไรไปก็อาจจะกระทบกระเทือนด้านธุรกิจเราเองก็มีลูกด้วยกัน 1 คนส่วนเขามีลูกกับสามีเก่าเช่นกัน 1 คน แต่แล้วอยู่ๆ มาภรรยาซึ่งเป็นที่รักของตนชอบหาเรื่องทะเลาะวิวาทอยู่ตลอดเวลา ซึ่งพูดอะไรนิดทำอะไรหน่อยก็ไม่ถูกตาต้องใจมีแต่บ่นต่อว่าต่อขาน สุดท้ายก็ไปกันไม่รอด



หลังจากที่ทะเลาะกันมาเรื่อยจนไม่สามารถจะครองรักครองเรือนต่อไปกันได้ เมื่อต้นปี 64 จึงได้ตกลงกันว่าจะเลิกลาแยกทาวกันอยู่โดยเขาขอเอาบริษัททั้ง 3 แห่งที่จดทะเบียนร่วมกันมาไปครอบครองเพียงคนเดียว แล้วก็แยกบ้านกันอยู่โดยบ้านที่อยู่ในรอบรั้วเดียวกัน ซึ่งมีถนนผ่ากลางซีกซ้ายผมเป็นผู้ครอบครอง ส่วนซีกขวาคุณมนธิราราเป็นผู้ครอบครอง และตรงกลางยกให้ลูกชายที่เกิดมาร่วมกันเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำและ studio ห้องทำงานก็ยกให้ลูกชายคนเล็กไป ส่วนผมก็แยกไปตั้งบริษัทใหม่ ชื่อรักแท้เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตสื่อทีวีดาวเทียมและจำหน่ายสินค้า 5 ตัวเช่น ยาทิพย์เกสร กาแฟตราซิ่นถี่ เป็นต้นซึ่ งธุรกิจก็กำลังเจริญเติบโตไปด้วยดี อยู่ๆ ก็มาเกิดเป็นข่าวอดีตภรรยา CEO ไทยบ้านทีวี ได้ไปปรึกษาทนายดัง กล่าวหาว่าผมแอบไปจดทะเบียนสมรสกับผู้ใหญ่บ้านสาวสวยจังหวัดบึงกาฬ ตามข่าวที่รู้กันทั่วไปแล้วนั้น ผมจึงขอชี้แจงว่าเราได้ทำสัญญาตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าหลิงเลิกกันไปแล้วจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันทั้งทางร่างกายและวาจา แต่ปรึกษาและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้


ดังนั้น เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 จึงได้ทำสัญญาข้อตกลงกันมีใจความว่า นับแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปเราสิ้นสุดขาดความเป็นสามีภรรยากันตามเอกสารที่ทำขึ้นมา โดยทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะไปก้าวล่วงหรือหึงหวงกันและกัน ใครจะทำอะไรก็ได้แล้วแต่คุณ จะคบหาแต่งงานใหม่ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคนไป หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำธุรกิจรุ่งเรืองหรือเป็นอะไรก็แล้วแต่จะไม่มารบกวนหรือว่ามาเรียกร้องสิทธิ์อะไรใดๆ กับอีกฝ่ายหนึ่ง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่ามาอ้างว่านี่คือสินสมรสร่วมสร้างด้วยกันมา ไม่มีการทำร้ายร่างกายกันและกัน หากใครนำใครเข้ามาอยู่ในบ้านก็เป็นสิทธิ์ซึ่งได้แบ่งแยกกันแล้ว จะไม่ก้าวล่วงด้วยกริยาวาจาท่าทาง แล้วก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตามปกติ หากมีปัญหาทางธุรกิจก็ปรึกษาได้ ถือว่าวันนี้พูดกันด้วยดีเขียนเป็นเอกสารแล้วก็ลงนามรับทราบด้วยกันต่อหน้าพยาน 

จากนั้นนายคทาธร หรือรักแท้ ได้เปิดเผยต่อไปว่า หลังจากทำสัญญาข้อตกลงกันเมื่อเดือนสิงหาคมตนเองก็ได้ไปคบกันฉันชู้สาวหรือคนรักกับผู้ใหญ่เหมียว หรือ น.ส.รัชนิกุล บุญโนนแต้ 0872223034 ผู้ใหญ่บ้านนาโซ่ หมู่ที่ 9 ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬและก็ได้จดทะเบียนสมรสกันเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564 นี้เอง ซึ่งชาวบ้านก็รู้กันทั่ว เธอเป็นผู้หญิงที่ประพฤติตนดีและวางตัวเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ หากผมไม่โสดเขาก็คงไม่ยอมมาจดทะเบียนสมรสอยู่กินกับผมหรอก ซึ่งเรื่องนี้ญาติพี่น้องหรือทุกคนในจังหวัดบึงกาฬที่รู้จักผมเขาก็ทราบกันดี ส่วนจะกล่าวหาว่าผมแอบไปจดทะเบียนสมรสนั้น เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดครับ จึงขอชี้แจงด้วยขอความเป็นธรรมด้วย หลายคนที่ไม่ตกอยู่ในสภาวะอย่างผมคงไม่เข้าใจแต่ถ้าหากได้ทราบตามนี้แล้วจงโปรดเข้าใจด้วยว่าผมไม่ได้เป็นคนที่เอาเปรียบผู้หญิงในเมื่อผมถูกเขาผลักไสออกมาและก็แบ่งแยกทรัพย์สินการมีข้อตกลงกันเป็นที่มั่นเหมาะตามสัญญากันแล้วผมจึงมาเลือกผู้ใหญ่เหมียวเพื่อสร้างชีวิตคู่สร้างอนาคตร่วมกันต่อไป






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.