เมื่อเวลา 17.00 - 20.30 น.วันที่ 14 ม.ค.65 ที่สนามหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เปิดเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1  โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี นายพิทยา แก้วภราดัย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย พร้อม ส.ส.ดังจากภาคใต้ และภาคกลาง เหนือ อีสาน มาร่วมปราศรัยหาเสียงให้กับ นายอิสระพงศ์ มากอำไพ “เลขาตาร์ท” ผู้สมัครจากพรรค ปชป. ลงแทน นายชุมพล จุลใส “ลูกหมี อดีต ส.ส.และแกนนำ กปปส. โดยทีมงานได้เตรียมเก้าอี้นั่งไว้ทั้งหมด 6,000 ตัว แต่ไม่เพียงเนื่องจากมีประชาชนสนใจหลั่งไหลมาร่วมฟังจำนวนมาก จนต้องเสริมให้นั่งล้นออกไปบนถนนปรมินทรมรรคา และฝั่งหน้าเทศบาลเมืองชุมพร

การปราศรัยของบรรดาแกนนำที่สลับกันพูดบนเวทีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคฯ ที่ใช้อิทธิพลทุกรูปแบบ เพื่อหวังจะโค่นล้ม “ลูกหมี” และพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ชุมพรให้ได้ ทั้ง ๆที่ “ลูกหมี” คือหนึ่งในแกนนำมวลมหาประชาชนที่ทำให้ได้มานั่งชูคออยู่ในสภาทุกวันนี้ และยังมาเหยียบย่ำน้ำใจถึงกับประกาศพรรคพลังประชารัฐแพ้ไม่ได้  นอกจากนั้นยังเอาผลงานของรัฐบาลมาเป็นนโยบายหาเสียงเป็นของตนเองอาทิ โครงการบัตรประชารัฐ โครงการคนละครึ่ง และพูดจาดูถูกเหยียบย่ำยีใช้ให้คนใต้เลือกคนที่พร้อม มีชาติตระกูล และคนร่ำรวย ให้ได้เป็น ส.ส.เท่านั้น ถือเป็นการหยามเกียรติคนใต้อย่างมาก  ขณะที่ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ส.อบจ.ชุมพร คนสนิทของลูกหมี กล่าวตนถูกบุคคลไม่บอกนามใช้มือถือไม่แสดงชื่อผู้โทรได้โทรมาข่มขู่ตนขอให้เบาๆลงบ้าง ลักษณะทำนองข่มขู่ แต่ตนได้ตอบโต้กลับไปแบบไม่สนใจ จากนั้นช่วงเวลากลางคืนได้มีเครื่องบินโดรนมาบินวนเวียนบริเวณบ้านตนถึง 2 ครั้ง ถือเป็นการข่มขู่คุกคามตนให้เกรงกลัว

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสถาบันการเมืองที่ก่อตั้งมานานไม่ใช่พรรคสัมภเวสี ที่มีแต่คนเร่ร่อน และตั้งขึ้นมาเป็นพรรคเฉพาะกิจ ซึ่งพรรคการเมืองบางพรรคอาจจะคิดว่าคุณธรรม จริยธรรม และมารยาททางการเมือง การทำงานร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะไม่มีความจำเป็น

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่าตนสงสาร “ลูกหมี” อย่างมากถึงกับน้ำตาตกใน ทั้ง ๆที่เคยทุ่มเทชีวิตทำให้บางพรรคสามารถเข้ามาชูคออยู่ในสภาผู้แทนราษฎรได้ทุกวันนี้ แม้แต่เก้าอี้ ส.ส.ตัวเดียวก็ยังคิดมาช่วงชิง ทำทุกวิถีทางและยังต้องสู้กับอำนาจรัฐ อำนาจเงิน ดังนั้นคนชุมพรต้องสอนบทเรียนคนพวกนี้ โดยคืนความเป็นธรรมให้กับ “ลูกหมี” เลือกนายอิสระพงศ์ มากอำไพ เบอร์ 5 เป็น ส.ส.ทำหน้าที่แทน “ลูกหมี

นายจุรินทร์กล่าวว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งซ่อมไม่เกี่ยวกับเลือกนายกรัฐมนตรีและนโยบายใด ๆทั้งสิ้น เหมือนกับที่บางพรรคการเมืองนำมาใช้หาเสียง โดเฉพาะโครงการบัตรประชารัฐ โครงการคนละครึ่ง เกิดขึ้นเพราะเป็นการคิดร่วมกันของรัฐบาลช่วงเกิดภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ได้เป็นนโยบายใช้หาเสียงของพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง ชาวบ้านจะเลือกผู้สมัครคนใดพรรคใดโครงการนี้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กล่าวปราศรัยว่าสนามการเลือกตั้งซ่อมเขต 1 ชุมพร ครั้งนี้มีคนการจับตามองทั้งประเทศ เพราะมีคนของพรรคพลังประชารัฐประกาศว่าแพ้ไม่ได้ จึงมีการทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีการเลือกตั้งครั้งนี้ ตอนนี้ จ.ชุมพร มีการตั้งด่านความมั่นคงเหมือนกับอยู่ในสภาวะประกาศกฎอัยการศึกมันเกิดอะไรขึ้น
 

การที่มีคนจากที่อื่นมาประกาศว่าชุมพรพรรคพลังประชารัฐแพ้ไม่ได้ เหมือนเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีคนชุมพร และยังไปพูดที่ จ.สงขลา ว่าของให้พี่น้องเลือกคนที่พร้อม คนมีชาติตระกูลดี และมีเงิน ยิ่งเป็นการดูถูกศักดิ์คนใต้อย่างมาก ถ้าเลือกคนที่มีคุณสมบัติแบบนั้น และคนอย่างนายชวน หลีกภัย ลูกแม่ค้าขายพุงปลา จะได้เป็น ส.ส.และเป็นนายกรัฐมนตรีมาได้ถึง 2 ครั้งหรือ” นายสาทิตย์กล่าว

ขณะนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ขึ้นเวทีปราศรัยปิดท้ายได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยแบบนี้มานานหลายปีแล้ว แต่วันนี้เลือกที่จะมา จ.ชุมพร เพราะตนผิดหวัง “บิ๊กป้อม” มาก “บิ๊กป้อม” ต้องสำรวจตัวเองก่อนว่ามาลงเล่นการเมืองเพื่ออะไร “บิ๊กป้อม” ต้องมีแนวร่วม ดังนั้นอย่ามาเหยียบย่ำแนวร่วม แม้ “บิ๊กป้อม” ไม่ได้ทำเองแต่ลูกน้องเป็นคนทำ โดยเฉพาะ ร.อ.ธรรมนัสนั้นเพิ่งจะเข้าสู่การเมืองยังถือว่าน้อยประสบการณ์ จึงขอฝากบอกไปยัง “บิ๊กป้อม” ด้วย ให้ปรามๆและเตือนกันไว้บ้าง เพราะหลังเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว เรายังต้องอยู่กันในรัฐบาลอีก