น่าใจหาย ! "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" จุดท่องเที่ยวสำคัญ จำนวนนักท่องเที่ยวลดฮวบ รายได้หายไปเกินครึ่ง
15 ม.ค. 2565, 15:53
วันนี้ 15 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าว ON news รายว่าได้เดินทางไปบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี พบบรรดาร้านค้าของฝาก ร้านค้าอัญมณี และอื่นๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คิดว่าหลังปีใหม่ 2565 เศรษฐกิจจะดีขึ้น เนื่องจากในช่วงต้นปีใหม่ ค้าขายได้คล่องบรรดาผู้ค้าขายได้อิ่มออก แต่พอจากหลังปีใหม่ได้เพียงวันที่ 3 ของเดือนมกราคม สะพานข้ามแม่น้ำแคว เงียบหายนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหายแทบจะไม่มีให้เห็นเลย รู้สึกแปลกใจมากๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น นักท่องเที่ยวเริ่มประหยัดกันมาก ที่เคยใช้จ่าย 100 บาท เหลือแค่ 50 บาท เป็นต้น ผู้ค้าแจ้งว่าได้ยินนักท่องเที่ยวพูดบอกกันว่ามาท่องเที่ยวชมสถานที่ให้มาก ลดการใช้จ่ายซื้อสิ่งของให้น้อยลงต้องช่วยกันประหยัด อนาคตอาจจะคงไม่ได้มาเที่ยวชมสถานที่แห่งอีกก็ได้ สาเหตุน่าจะเกดปัจจัยหลายอย่างเช่นสถานการณ์โควิด สายพันธ์ใหม่ อาจจะส่งผลกระทบต้องมาปดประเทศเป็นรอบที่สี่หรือไม่ยังไม่ทราบ รวมถึงสินค้าทั้ง หมู ไข่ มีราคาแพงมาก มนุษย์เงินเดือน ค่าแรงวันละ 300 บาท ไปซื้อหมูได้เพียงกิโลเดียวเท่านั้น
เสียงจากบรรดาจากร้านลูกชิ้นปิ้งเชิงสะพาน เปิดเผยว่า ขายลูกชิ้นปิ้งมานาน เพิ่งประสบปัญหาค้าขายฝืดเคืองในช่วงก่อนส่งท้ายปีเก่นต้อนรับปีใหม่ เห็นนักท่องเที่ยวคึกคักดีใจมาก แต่พอพ้นปีใหม่ได้แค่ 3 วัน นักท่องเที่ยวหายเงียบอย่างน่าแปลกใจ บางวันตั่งแต่เช้าถึงเย็นขายได้แค่ 20 บาท เท่านั้น พนักงานที่ขายของอยู่ในละแวกสะพานข้ามแม่น้ำแคว เคยรับประทานข้าวจานละ 40 บาท หันมากนลูกชิ้นปิ้งไม้ละ 10 บาท แค่ 2 ไม้ แทนข้าวกลางวัน
ส่วนร้านค้าอัญมณีภายในสะพานข้ามแม่น้ำแคว เผยว่า เศรษฐกิจแย่จริงๆ แย่มาตั่งแต่ช่วงหลังปีใหม่ได้เพียง 3 วัน จนถึงวันนี้การค้าขายนักท่องเที่ยวไม่มาท่องเที่ยวเลย ทั้งๆ ที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสถานที่โด่งดังไปทั่วโลก อยู่ๆ นักท่องเที่ยวเงียบหายไปดื้อๆ คาดว่าน่ามาจากผลกระทบจากโควิดสายพันธ์ใหม่ หรือ นักท่องเที่ยวหันมาประหยัดกันก็เป็นได้ อยากจะฝากให้ทางรัฐบาลหันมาดูแลช่วยเหลือแม่ค้าบ้าง เพราะทุกวันนี้ย้ำแย่มากๆ
สำหรับพ่อค้าที่ค้าขายอยู่เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว มานานรวมถึงอดีตเคยเป็นสื่อท้องถิ่น ต้องเจอผลกระทบจากโลกโซเชียส ต้องหันมาประกอบอาชีพค้าขายสิ่งของด้านไม้นวดเพื่อสุขภาพ ได้เปิดเผยว่า ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็ยิ้มได้ แต่หลังจากปีใหม่ ได้เกิดมีข่าวเชื้อตัว โอไมครอน และยังมีอีกตัว ส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวอยู่มันวูบหายไปเลย ปกตินักท่องเที่ยวจะมากับขบวนรถไฟแน่นหลายโบกี้ แต่มาจากเสาร์ก่อนหน้านี้ และมาเสาร์นี้ ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย แต่ละโบกี้ว่างเปล่า มีไม่ถึงครึ่งของทุกโบกี้รถไฟ สงสัยมันหายไปไหนหมด แสดงว่าข่าวเรื่องนี้ในหลายจังหวัดที่ตดหนักมันจึงส่งผลกระทบมาถึงจังหวัดกาญจนบุรี ทั้งๆที่คนในจังหวัดกาญจนบุรี เองไม่ค่อยมีผู้ติดเชื้อไม่ได้เพิ่มมากนักแทบจะไม่มีก็ว่าได้ แต่เชื้อตัวใหม่นี้มันไม่ค่อยแสดงอาการให้เห็น เหมือนโควิด – 19 ตัวเก่าก็ยังหวั่นๆ อยู่ว่าอาจจะต้องมาปิดประเทศรอบสี่ บรรดาผู้ประกอบการคงจะต้องผดหวังไปตามๆ กัน
และบรรดาพ่อค้า แม่ค้า เชิงสะพานก็จะดูแลเข็มงวดกับนักท่องเที่ยว หากท่านใดไม่สวมแมสป้องกันก็จะเตือน หากเตือนไม่เชื่อก็จะแจ้ง เจ้าหน้าที่ จะเจอมากก่อนหน้านี้คือนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศไม่ค่อยสวมแมสป้องกัน แถมยังสวมใส่เสื้อผ้าไม่ให้เกียรติสถานที่กันเลย ต่างประเทศมากันเป็นกลุ่มจะไม่ค่อยสวม บางกลุ่มมากันเองไม่มีไกด์นำพา มันจึงเป็นเรื่องลำบาก ต้องฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวคอยดูแล
แต่ช่วงนี้ที่น่ากลัวตามมากับเชื้อไวรัชโควิด คือค่าครองชีพ หมู ไข่ มีราคาแพง อาหารการกินประจำวันเสียด้วย สั่งอาหารตามสั่งมา นับชิ้นหมูชิ้นไก่ได้เลย เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องทำใจ อย่างไรก็ต้องอยู่กันต่อไปให้ได้ ก็หวังว่าสักวันหนึ่งคงจะแก้ปัญหาได้ ไหนๆ เราก็ผ่านมาได้หลาย เคส แล้ว เคส นี้เราก็น่าจะต้องอยู่ได้หากเราป้องกันดูแลกันดีๆ คงผ่านวิกฤติกันได้
แต่ทางที่ดีแล้วอยากให้สถานการณ์ประเทศไทยมันเปลี่ยนอะไร บางสิ่งบางอย่างให้มันดีขึ้นนะ ตนเองก็พูดไปตามความเป็นจริง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องปากท้อง บริหารไม่ดีประชาชนทั้งหลายก็จะเดือดร้อน คนที่อยู่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่คนที่อยู่ไม่ได้มันจะลำบาก แล้ว มันจะเกิดพวกโจรขโมยเยอะตามมา เผอลพวกนี้มันหยิบ หรือไม่อยู่บ้านมันก็เข้าไปหยิบ ขอฝากผู้บริหารไว้ด้วย