จากข่าวที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เตรียมสั่งเลิกทำเกาะกลางถนนทั่วประเทศ โดยการเปลี่ยนมาใช้แท่งแบริเออร์ที่ผลิตจากยางพารา เพื่อกั้นแบ่งเลนถนน เพื่อช่วยเหลือชาวสวนยางที่ประสพปัญหาราคายาง อีกทั้งช่วยประหยัดงบประมาณงานก่อสร้าง บำรุงรักษาถนน โดยเตรียมนำร่องที่จังหวัดบุรีรัมย์ในปีพ.ศ. 2563

 

 

 

 

วันที่ 6 ก.ย. 62 ผู้สื่อช่าว ONB news รายงานว่า นายชาญชัย แฮวอู อาจารย์ประจำฝ่ายนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ วิทยาลัยเทคนิสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้นักศึกษาระดับ ปวส.2 แผนกเทคโนโลยีการยาง แผนกช่างเชื่อม และ แผนกช่างอิเลคทรอนิคส์ วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี ประสบความสำเร็จจากการคิดค้นผลิตแท่งแบริเออร์ยางพาราได้สำเร็จ ได้ตามมาตรฐานของแขวงทางหลวง และมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ดีกว่าแท่งแบริเออร์จากปูนซีเมนต์ คือ มีน้ำหนักเบากว่า สามารถให้ตัวได้ ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการปะทะ ช่วยป้องกันและลดระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุที่เกิดจากรถเฉี่ยวชน รวมทั้งยังมีความแข็งแรงทนทานกว่าแบริเออร์ที่ทำจากจากพลาสติก คุณสมบัติทนแดดทนฝนที่ดีกว่า และเนื้อวัสดุมีอายุการใช้งานที่นานกว่าแท่งแบริเออร์จากพลาสติก

 

 

นอกจากนี้นักศึกษาแผนก ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ได้คิดค้นสัญญาณแจ้งเตือน ที่ได้แนวคิดมาจากเซ็นเซอร์ถอยหลังของรถยนต์ ช่วยแจ้งเตือนด้วยสัญญาณไฟกระพริบเมื่อรถยนต์เข้าใกล้ในระยะ 150 เซนติเมตร ซึ่งใช้แหล่งพลังงานจากระบบโซลาร์เซลล์ ชาร์จไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เก็บไว้ในแบตเตอรี่ขนาด 12 โวลต์ทำให้ระบบสามารถทำงานต่อเนื่องได้ถึงประมาณ 3 วัน

 

 

โดยส่วนผสมในการทำแบริเออร์ ประกอบด้วย น้ำยางพาราสด ขี้เลื่อย ใยมะพร้าว ในอัตรา 4:1:2 แล้วประสานด้วยน้ำยาเคมี โดยมีต้นทุนตกประมาณ กก.ละ 170 บาท ซึ่งแท่งแบริเออร์แบบตัวเต็ม ใช้น้ำยางสดจำนวน 50 กก. และ ตัวครึ่ง ใช้น้ำยางสดจำนวน 25 กก. ซึ่งค่าเฉลี่ยบวกค่าการตลาด สามารถผิตแท่งแบริเออร์แบบตัวเต็มได้ในราคา 10,000 บาท ซึ่งต้นทุนการผลิตต่ำกว่าการวิจัยของกรมทางหลวงกว่า 3 เท่าตัว โดยในเร็ว ๆ นี้ทางวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี จะนำผลงานการประดิษฐ์ของนักศึกษารายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีทราบ และพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้กับสถาบันทางการเกษตร หรือวิสาหกิจชุมชน เพื่อพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องราคายางพาราให้มีเสถียรภาพในอน

ชมคลิป