วันที่ 18 ม.ค.65 กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้าย ย่องขโมยกระถ่างธูปทองเหลือง หน้าองค์พระพุทธโสธร ซึ่งตั้งประดิษฐาน อยู่หน้า กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จังหวัดสระบุรี จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่าคนร้ายได้ขี่จักรยาน สองล้อ สีเหลือง สวมกางเกงขาสั้น เสื้อยืดคอกลม สีแดง ดำ เข้ามาจอดรถไว้ จากนั้นได้เดินเข้ามาหยิบเข้ามายกกระถางธูป ที่ตั้งอยู่หน้า องค์พระพุทธโสธร ขี่จักรยานออกไป คงเหลือไว้แต่ร่องรอยการวางของกระถางธูปให้เห็น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบดูเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย จนสืบทราบว่า คนร้ายที่เข้ามาขโมยกระถางธูปไปคือ นาย จีรายุทธ (ต๊อบ) รอสูงเนิน อายุ 21 ปี อาศัยอยู่ในห้องเช่า ไม่มีเลขที่ ป่าไม้ซอย 7 แยก 5 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี จึงได้ควบคุมตัว นำส่ง พ.ต.ท.ชูเชิด อนันต์สลุง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี เพื่อควบคุมตัวดำเนินคดีทางด้านกฎหมาย สอบถาม นาย จีรายุทธ ยอมรับสารภาพว่าตนเอง ออกตระเวนลักทรัพย์ในช่วง เวลากลางคืน ในเขตพื้นที่ อำเภอเมืองสระบุรี เมื่อได้มาจะนำไปขายยังร้านรับซื้อของเก่า เพื่อนำเงินมาซื้อยาบ้าเสพ ส่วนกระถางธูปที่ขโมยไปนั้น นาย จีรายุทธ ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองได้นำไปซ่อนไว้หลังบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าไปค้นหาบริเวณดังกล่าว แต่ไม่พบ พบเพียง องค์พระทองเหลือง ที่ถูกตัดเศียร และแขนไปแล้ว และกระถางธูปเซรามิก ใส่อยู่ในถุงปุ๋ย ตั้งอยู่หลังบ้าน จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องนำตัวนาย จีรายุทธ มาสอบสวนอีกครั้ง และนำตัวมาค้นหาของกลางอีกครั้ง คาดว่า นาย จีรายุทธ น่าจะนำกระถางทองเหลืองไปขายแล้ว แต่หลอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านำไปซ่อนไว้ในป่าหลังบ้าน

จากการสอบถามนายเจริญ รอสูงเนิน อายุ 48 ปี พ่อของนาย จีรายุทธ เล่าว่า ลูกของตนนั้นก่อเหตุบ่อยมาก ทุกคืน ทำให้ตนเองไม่ได้หลับนอน เนื่องจากเสพยาเป็นประจำ และจะออกลักขโมยทั่วไป กลับมาเช้าก็มีเงินเข้ามาบ้าน ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าไปก่อเหตุที่ไหนมาบ้าง ซึ่งเงินทองของลูกนั้นตนเองไม่เคยยุ่งเกี่ยว กล่าวเสริมว่า ของอย่างนี้มันบาปกรรม ส่วนตนเองดื่มแต่เหล้า ตนเองรู้สึกเอือมระอากับลูกคนนี้มาก ไม่รู้จะทำอย่างไร

ทางด้าน ร.ต.ท.ณรงค์ชัย แสงพาดา รองสารวัตรป้องกันสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี  เล่าว่า เหตุเกิดวันที่ 17 ม.ค.65 เวลาประมาณ 02.30 น.ตามกล้องวงจรปิด  ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่น่าจะเป็นคนติดยา เพราะมันขี่จักรยานวนไปมา ถือว่าบังอาจมากที่มาเอาขนาดนี้  คาดว่าน่าจะติดยา เพราะมูลค่ามันเป็นทองเหลือง หนักด้วย หลายตัง เมื่อก่อนนี้มันดำๆตนมาขัดทำความสะอาดช่วงปีใหม่นี้ ขัดอย่างใสแจ๋ว มันน่าจะล่อตาล่อใจ เพราะทั้งใหญ่ทั้งหนัก  ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะยังหาของกลางอยู่  แต่ตอนนี้ที่ผู้ต้องหาโดนจับ เพราะไปลักของที่อื่น ไปลักของที่คอนโดแถวเอแจ็ค ต้องรอร้อยเวรอายัญตัวเพื่อดำเนินต่อ  นี้ขนาดหน้าสืบจังหวัด ปกติตนจะมาให้อาหารปลาตอนเช้า มาทำความสะอาดเกือบทุกเช้า พอดีเมื่อวานตนลาไปงาน กลับมา กำลังจะล้วงของดู  เอ๊ะใจว่าทำไมทรายและก้านธูปไปกองอยู่ตรงนั้น ได้ไง  มันเทลงในน้ำและมันก็หนีไปเลย ดูจากในกล้องแล้ว เพราะกล้องเราติดไว้หมด มันทำอะไรไม่ได้

ส่วน ลุง เท อาจหาร อายุ 78 ปี (เจ้าของร้านขายของชำ ที่อยู่ใกล้กับบ้านผู้ต้องหา) เล่าว่า  มันลักหัวจักรซิงเกอร์ของตนไป นานร่วมครึ่งปีแล้ว  มันตะเวนลักไปหมดในบริเวณนี้  คนแถวนี้ไม่มีใครชอบมันสักคน สาเหตุเพราะมันขี้ลักขี้ขโมย ไม่ทำมาหากิน เวลามันมาซื้อของร้านตน ตนไม่ให้เข้ามาในร้าน และไม่ขาย บอกว่า มึงห้ามขึ้นร้านกูนะ  คนแถวนี้ไม่มีใครชอบ ขนาดพ่อแม่พี่น้องของมันยังไม่ชอบเลย  รวมทั้งพี่ป้าน้าอา  คนแถวนี้อยู่ด้วยความหวาดระแวง กลัวมันจะมาลักเล็กขโมยน้อย  บางครั้งมันเมายาบ้า โวยวาย ตีพ่อแม่มัน  เวลามันกินยาบ้าก็ไม่โวยวาย แต่ถ้าไม่ได้กินมันก็จะโวยวาย