เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ ( 20 มกราคม 2565 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรรัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ พ.ต.อ.ธีระศักดิ์ เจริญศรี ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรรัตนบุรี ได้เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวการซ้อมแผนเผชิญเหตุ และทำการซักซ้อมเพื่อป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทต่อเนื่องที่โรงพยาบาล ตามนโยบายของตำรวจภูธรภาค 3 โดยให้สถานีตำรวจภูธรรัตนบุรี ตรวจสอบพื้นที่ที่มีความเสี่ยงและล่อแหลม ในการก่อเหตุของนักเรียน นักศึกษาทะเลาะวิวาทกัน โดยการจำลองเหตุการนักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในอำเภอรัตนบุรี ได้มีนักศึกษาทะเลาะวิวาทกันหน้าวิทยาลัยจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรัตนบุรี

จากนั้นก็ได้มีบรรดาเพื่อนนักศึกษาที่ทราบเหตุเพื่อนถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ จึงได้พากันบุกไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาล และก็ได้มีนักศึกษาอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นคู่กรณี ก็ได้เดินทางมาเยี่ยมเพื่อนเช่นกัน และเกิดการทะเลาะวิวาทจะเข้าทำร้ายกันโดยมีอาวุธ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเหตุก่อน จึงได้เข้าระงับเหตุได้ทันก่อนที่นักศึกษาทั้งสองฝ่ายจะบุกเข้าก่อเหตุทำร้ายกันในโรงพยาบาล ซึ่งมี พ.ต.ท.ธนรัฐ รอบรู้ รอง ผกก.ป.ฯ เป็นผู้กำกับความคุมดูแลในการฝึกซ้อมแผนในครั้งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายต่างๆ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ฮุก 31 จุด อ.รัตนบุรี เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัตนบุรี และนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิครัตนบุรี รวมทั้งสิ้นจำนวน 50 นาย

โดยเหตุการณ์เริ่มจากนักศึกษา 2 กลุ่มประมาณ 14 คน ได้ยกพวกเข้าทำร้ายกันที่บริเวณหน้าวิทยาลับเทคนิครัตนบุรี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนบุรี ได้รับแจ้งเหตุ จึงพร้อมด้วยตำรวจสายตรวจ ซึ่งมีชุดสืบสวน ชุดตำรวจจราจร และตำรวจควบคุมฝูงชน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุด อ.รัตนบุรี เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลรัตนบุรี ได้รีบรุดเข้าระงับเหตุและทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บก่อนนำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายส่งโรงพยาบาลรัตนบุรี

เมื่อผู้บาดเจ็บถึงโรงพบาลรัตนบุรีได้ไม่นาน ก็ได้มีบรรดาเพื่อนๆของผู้ได้รับบาดเจ็บอีกฝ่ายหนึ่ง ได้พากันมาติดตามมาดูอาการของเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประเมินเหตุการณ์ล่วงหน้าไว้แล้ว จึงได้นำกำลังส่วนหนึ่งมาเฝ้ารักษาความสงบอยู่ที่โรงพยาลรัตนบุรี เมื่อกลุ่มนักศึกษามาถึง จึงได้เข้าสอบถามและทำการตรวจค้นอาวุธ ก่อนจะควบคุมให้อยู่ในความสงบหากจะรอเยี่ยมเพื่อน โดยไม่ให้ก่อความวุ่นวายกันในบริเวณโรงพยาบาล