จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรีร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ จุดรอรับเหตุบ้านพุเตย บ้านทุ่งก้างย่าง บ้านไทรโยคใหญ่ บ้านลิ่นถิ่น พร้อมอุปกรณ์แสงสว่าง และอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างมาทำการปฎิบัติหน้าที่ช่วยเหลือตัดถ่างรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุดีแมคซ์ สีบอรนท์เงิน ที่พลิกคว่ำอยู่ในสภาพล้อชี้ฟ้า ห่างไปเล็กน้อยพบรถบรรทุกพ่วง 10 ล้อยี่ห้ออีซูซุ  จอดอยู่ริมถนนในสภาพกระบะด้านท้าย มีร่องรอยถูกเชี่ยวชนจนพังเสียหาย ในที่เกิดเหตุบนถนนพบร่างผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 7 ราย อาการสาหัส ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ติดอยู่ภายในซากรถอีก 1 ราย รวมทั้งสิ้น 4 ราย   จึงรีบนำตัวส่ง รพ.ฯ อย่างเร่งด่วนเพื่อให้แพทย์ทำการช่วยเหลือชีวิตอย่างเร่งด่วน

เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำนายชานนท์ ทองผาวัชระ อายุ 44 ปี ที่เป็นคนขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวที่รอดตายจากอุบัติเหตุครั้งนี้ เนื่องจากคาดเข็มขัดนิรภัยจึงรอดตายหวุดหวิด มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมุ่งหน้าจากตัวเมืองกาญจนบุรี เพื่อมุ่งหน้าไปที่ อ.ทองผาภูมิฯ ระหว่างทางพบแรงงานต่าวด้าวยืนอยู่ริมถนนได้โบกมือขออาศัยรถไปที่ อ.ทองผาภูมิฯ ตนเห็นว่าไปทิศทางเดียวกัน จึงจอดรถอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวรวม10 คนขึ้นรถมาด้วย    

ระหว่างทางที่ขับรถมาตามเส้นทางดังกล่าว เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นเนินขึ้นถนน ประกอบกันเส้นทางดังกล่าวไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง เมื่อเร่งเครื่องรถขึ้นเนินถนน จึงมองไม่เห็นรถบรรทุก 10 ล้อวิ่งไต่ขึ้นเนินถนน ตนจึงเหยียบเบรคทำให้รถเกิดส่ายพุ่งเข้าชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ จนเสียหลักพลิกคว่ำ ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งมากับรถกระจัดกระจายกระเด็นตกจากรถได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนตนรอดตายหวุดหวิดเพราะคาดเข็มขัดนิรภัย หลังเกิดเหตุจึงมุดตัวออกมาจากรถได้แต่ก็ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

เบื้องต้นจากปากคำให้การของนายชานนท์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ คาดว่าน่าจะเกิดจากความประมาทขับรถเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสอบสวนปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บที่รอดชีวิตเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป