เปิดเส้นทาง ! "83 แรงงานเมียนมา" ซุกถ้ำคลอลี่ พบเดินรอยเท้าลัดเลาะหลบด่านนาน 2 วัน
21 ม.ค. 2565, 11:51
จากกรณี พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ วิเศษสิงห์ รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.กฤตญุตม์ นุ่นชูคัน สวป.พ.ต.ต.ภาวัต ธรรมวิเศษ สว.สส.ฯ, ร.ต.อ.วีระชัย เกษเกษร, ร.ต.อ.นิติพัฒน์ น้ำเงินดี รอง สว.สส.สภ.ทองผาภูมิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.135 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ทองผาภูมิ
จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาขณะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำเขาคลอลี่ ท้องที่บ้านท่าแพ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทอผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จำนวน 83 ราย เป็นชาย 60 ราย หญิง 23 ราย พร้อมผู้ดูแลคอยส่งน้ำส่งอาหารให้กับกลุ่มแรงงานจำนวนดังกล่าว 1 รายคือนายอัศนัย หรือยอม พรายแก้ว อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 8 ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ยึดรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีส้ม หมายเลขทะเบียน กย 5104 ราชบุรี จำนวน 1 คัน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้ 21 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า สำหรับพฤติการณ์ก่อนการจับกุมนั้น สืบเนื่องจากคืนวันที่ 20 ม.ค.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ทองผาภูมิ นำโดย พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.ทองผาภูมิ ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวต่างด้าวเป็นจำนวนมาก มาจากชายแดนด้าน อ.สังขละบุรี ด้วยการใช้เรือล่องมาตามอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ มาขึ้นฝั่งที่บ้านท่าแพ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ
หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงาน พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบภ.ภาค 7 พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงประชุมวางแผนพร้อมออกหาข่าวและลาดตระเวนเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มแรงงานตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ
จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปในซอยเขาคลอลี่ที่เป็นป่าสัก พบรถยนต์กระบะจำนวน 1 คันวิ่งสวนทางมาพบบริเวณกระบะมีคนนั่งมามาหลายราย เมื่อคนขับเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้เหยียบคันเร่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว และระหว่างนั้นเองเจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋งคันสีส้มขับตามหลังกันมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่คนขับได้พยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงขับรถขวงทางและสามารถคุมตัวนายอัศนัย หรือยอม พรายแก้ว คนขับเอาไว้ได้
จากการตรวจค้นตัวนายอัศนัย รวมทั้งภายในรถยนต์เก๋งไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่พบข้าวกล่องจำนวน 20 กล่อง และน้ำดื่ม จำนวน 2 แพค อยู่ภายในรถยนต์เก๋ง โดยนายอัศนัย แจ้งว่าข้าวกล่องและน้ำดื่มจำนวนดังกล่าวนั้น ตนเองกำลังจะนำไปให้แรงงานต่างด้าวที่หลบซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำเชิงเขาคลอรี่ ขณะกำลังนำไปส่งตนเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียก่อน จึงกลับรถเพื่อขับหลบหนี แต่ก็มาถูจับกุมตัวได้เสียก่อน
ดังนั้น พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายอัศนัย ย้อนกลับไปที่ถ้ำ เมื่อไปถึงพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้งชายและหญิงนั่งแออัดกันอยู่ภายในถ้ำ จำนวน 83 คน เป็นชาย 60 คน หญิง 23 คน จากการตรวจสอบเอกสารปรากฎว่าทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทางหรือหนังสือสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแต่อย่างใด
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำรถยนต์กระบะร่วม 10 คัน มาเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ทองผาภูมิ แต่มีแรงงานบางรายพูดภาษาไทยไม่ได้ จึงมอบหมายให้นายยามิน เจริญรัตนผลกุล เจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาสมัคร เป็นล่ามให้
ทั้งนี้นายอัศนัย หรือยอม พรายแก้ว ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่าตนได้รับการว่าจ้างจากนาย ป.ให้ทำหน้าที่นำอาหารและน้ำดื่มมาส่งให้แรงงานต่างด้าวที่นาย ป.เป็นผู้นำมาซุกซ่อนเอาไว้ภายในถ้ำเขาคลอลี่ ตั้งแต่คืนวันที่ 19 ม.ค.65 ที่ผ่านมา
ต่อมาวันที่ 20 ม.ค.ได้เวลากินข้าวมื้อเที่ยง ตนจึงไปซื้อข้าวกล่องที่ตลาด อ.ทองผาภูมิ จำนวน 20 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม มาให้กับคนต่างด้าวภายในถ้ำที่ยังไม่ได้กินข้าวมื้อเที่ยง แต่ระหว่างที่ตนเดินทางมาถึงถ้ำ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาพอดี จึงหันหัวรถออกเพื่อขับหลบหนี แต่ก็มาถูกสกัดจับเสียก่อน
หลังจากนายอัศนัย ยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหาความผิดฐาน “ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยฝ่าฝืนกฎหมายพ้นจากการจับกุม” สำหรับผู้ร่วมขบวนการเจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ
ส่วนกลุ่มแรงงานทั้ง 83 คน ที่ถูกจับกุมให้การว่า พวกตนเดินข้ามชายแดนเข้ามาในประเทศไทยด้วยการใช้ช่องทางบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ที่มีชายแดนติดกับกิ่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา จากนั้นมีคนนำพาเดินลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่อหลีกเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ กว่าจะเดินมาถึงท่าลงเรืออ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ท้องที่ อ.สังขละบุรี ต้องใช้เวลาเดินนานถึง 2 วัน
จากนั้นช่วงเวลากลางคืนทั้งหมดนั่งเรือมาตามอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ มาขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำบ้านท่าแพ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ เมื่อขึ้นฝั่งแล้วเสร็จผู้นำพาได้นำพาเดินเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำ โดยผู้นำพาแจ้งว่าให้หลบอยู่ในถ้ำแล้วจะมีคนขับรถยนต์มารับไปทำงาน ระหว่างรอจะมีคนนำอาหารและน้ำดื่มมาให้ หลังจากยอมรับสารภาพเจ้าหนาที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหาความผิดฐาน“เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลุ่มแรงงานที่ถูกจับกุมตัวได้ทั้ง 83 ราย บางคนมาด้วยกัน 10 คน บางคนมาด้วยกัน 20 คน ทำให้ไม่รู้จักกัน ทั้งหมดเป็นหนุ่มสาวในวัยทำงาน ถึงแม้จะไม่รู้จักกันแต่ทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกันคือต้องการมาทำงานในหลายพื้นที่ของประเทศไทย เช่น จ.สมุทรสาคร จ.สงขลา จ.จันทบุรี จ.ปทุมธานี จ.สุพรรณบุรี จ. ชลบุรี จ.ราชบุรี จ.นครปฐม และกรุงเทพมหานคร โดยยอมเสียค่าจ้างให้กับผู้นำพาคนละ 20,000 – 28,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง