โดยพระครูสุนทรวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุจอมศีล ระบุว่า ในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาตนเองได้เดินขึ้นมาบริเวณพระอุโบสถ ที่ตั้งอยู่บริเวณบนยอดเขา เพื่อที่จะนำไฟส่องแสงสว่าง แบบโซล่าเซลล์ เข้ามาติดตั้งบริเวณโดยรอบพระอุโบสถ แต่พบว่าระฆังที่แขวนไว้บริเวณโดยรอบหน้าพระอุโบสถ ถูกขโมยหายไปจำนวนถึง 10 ลูก ซึ่งระฆังดังกล่าวนั้น เป็นระฆังทองเหลือง ที่มีความเก่าแก่ ที่มีการติดตั้งมาตั้งแต่ปี 2538 เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ที่เดินทางมาสักการะบูชาพระพุทธรูปทรงเครื่อง ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ใช้ตีเพื่อเป็นการสักการบูชา และเป็นสิริมงคล แต่ก็ถูกขโมยไปแทบหมดเหลือเพียงลูกเดียว ที่ใช้โซ่ขึงไว้ ในส่วนลูกอื่นๆที่หายไป จะใช้เพียงเหล็กงอเกี่ยวไว้ ซึ่งคาดว่าโจรใจบาปดังกล่าวนั้นน่าจะเข้ามาขโมยในช่วงระยะเวลาประมาณ 4-5 วันที่ผ่านมา เนื่องจากบริเวณพระอุโบสถดังกล่าว จะตั้งอยู่บนยอดเขาสูงภายในบริเวณวัด โดยพระภิกษุและสามเณร จะจำวัดอยู่บริเวณด้านล่าง และช่วงเวลา 3-4 วัน จะขึ้นไปทำความสะอาดหรือทำกิจสงฆ์ ครั้งหนึ่ง จึงไม่รู้ว่าขโมยในช่วงเวลาไหน และขณะที่เข้ามาขโมยโจรดังกล่าวได้ดึงสายกล้องวงจรปิดออก จนได้รับความเสียหาย โดยมูลค่าระฆังดังกล่าวนั้นคาดว่ารวมแล้วไม่ต่ำกว่า 150,000 บาทขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรดอกคำใต้ ระบุว่า ตอนนี้นั้นได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหากลุ่มโจรดังกล่าวที่เข้ามาขโมยระฆังของวัด และในวันพรุ่งนี้จะให้ตำรวจวิทยาการเข้าตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือ และจะตามจากกล้องวงจรปิด ที่มีอยู่ภายในบริเวณวัดหลายจุด คาดว่าน่าจะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้