"นายกฯ" ห่วงเฟกนิวส์โควิด-19 พุ่ง สร้างความสับสนให้ประชาชน ดีอีเอสเดินหน้าตรวจสอบรายวัน แก้ไขปัญหาจริงจัง
25 ม.ค. 2565, 11:25
วันนี้(25 ม.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ข่าวปลอม ซึ่งอาจสร้างความสับสน เข้าใจผิดให้กับสังคมกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง โดยล่าสุด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ทำการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอม (ประจำสัปดาห์) ระหว่างวันที่ 14-20 ม.ค. 65 โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมมีข้อความที่เข้ามาทั้งสิ้น 11,540,617 ข้อความ จากการคัดกรองมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) จำนวน 231 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 116 เรื่อง โดยเป็นข่าวเกี่ยวกับโควิด 21 เรื่อง ขณะที่ภาพรวม แบ่งเป็น 4 กลุ่มข่าว ได้แก่ 1) กลุ่มนโยบายรัฐบาล/ข่าวสารทางราชการ 74 เรื่อง 2) กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพ รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ 29 เรื่อง 3) กลุ่มภัยพิบัติ 6 เรื่อง และ 4) กลุ่มเศรษฐกิจ 7 เรื่อง โดยในภาพรวมได้รับการตรวจสอบแล้ว 66 เรื่อง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบข่าวปลอมพบว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ได้รับผลตรวจสอบข่าวปลอมแล้ว 66 เรื่อง ซึ่งจำนวนกว่า 30 เรื่องเป็นข่าวจริง ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่จากการรณรงค์สร้างการรับรู้ของศูนย์ข่าวปลอม ทำให้ประชาชนรู้เท่าทันข่าวปลอมที่เผยแพร่บนโซเชียลมากขึ้น และตื่นตัวที่จะแจ้งเบาะแสมาให้เกิดการตรวจสอบ ทำให้สัดส่วนของข่าวจริงมีแนวโน้มขยับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87
"นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทุกคนได้รับความเดือดร้อนอยู่แล้ว แต่ยังมีบางกลุ่มบางคนพยายามสร้างความสับสน สร้างกระแสข่าวปลอมกระจายรายวัน มุ่งสร้างความเข้าใจผิดในประเด็นต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องข่าวปลอมโควิด-19 ที่ยอดรับเรื่องสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขอความร่วมมือประชาชน เมื่อได้รับข้อมูลผ่านโซเชียลอย่าเพิ่งหลงเชื่อในทันที ควรตรวจสอบให้รอบด้าน เลือกเชื่อ เลือกแชร์ หรือแจ้งข้อมูลไปที่ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมเพื่อช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ และยืนยันข้อเท็จจริงต่อไป" นายธนกร กล่าว