นายกฯ ชื่นชมการทำงานหน่วยงานด้านเศรษฐกิจทำงานเห็นผล เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง
26 ม.ค. 2565, 10:49
วันนี้ (26 ม.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ควบคุมการดำเนินนโยบายตามที่ได้สั่งการ และชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจ หลังรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจไทยขยายตัวในอนาคต ยืนยันรัฐบาลเดินถูกทางเน้นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม 6 ด้าน
จากข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ คาดการณ์ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2565 จะขยายตัวในช่วง 3.5-4.5% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุน เช่น การใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภคของภาคเอกชนและภาครัฐ การลงทุนรวม มูลค่าการส่งออกและนำเข้าสินค้าในรูปเงินดอลลาร์ ดุลการค้า และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของ สํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ที่เปิดเผยว่า ในปี 2565 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ยังคงขยายตัว 4-5% เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคอุตสาหกรรม หรือจีดีพีภาคอุตสาหกรรม ที่ขยายตัว 2.5-3.5% โดยไทยมีศักยภาพหลายด้านที่ได้เปรียบประเทศคู่ค้า ทั้งการมีแรงงานทักษะที่มีฝีมือและคุณภาพ วัตถุดิบทางการเกษตร ที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมในการเป็นศูนย์กลางภูมิภาค ตลอดจนโครงการลงทุนต่าง ๆ ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สอดคล้องกับแนวนโยบายด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้ความสำคัญเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเมื่อรัฐบาลปลดล็อกการเดินทางระหว่างประเทศแบบ test and go จะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้อีกมาก ทั้งนี้ รัฐบาลเน้นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม 6 ด้าน ได้แก่
1. ส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ
2. พัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพ ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับหมุดหมายการพัฒนาตามตารางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2566-2570)
3. พัฒนาผู้ประกอบการและภาคการผลิตไปสู่ 4.0 เช่น การสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการอัจฉริยะ ส่งเสริมเอสเอ็มอี เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล
4. พัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
5. จัดตั้งและส่งเสริมการลงทุนนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ
6.การยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล