วันนี้ (26 ม.ค.65) ข่าวช่อง 3 เผยเรื่องราวของผู้ใหญ่บ้าน หญิง ที่ทวงสิทธิความเป็นภรรยาหลวง หลังจับได้ว่าสามีนอกกาย นอกใจ ตบแต่งงานกับสาวอีกคนหนึ่ง

ทางด้าน น.ส.ปาริชาติ หรือ ผู้ใหญ่แอน ภรรยาหลวง เปิดใจว่า ตนและสามี ต่างเป็นพ่อม้ายแม่ม้าย มีลูกติด รักชอบกันปี 2560 หลังจากนั้น 1 ปีได้ตัดสินใจแต่งงาน ใช้ชีวิตคู่กัน 

 

ซึ่งจะมีการเจอกัน เสาร์ - อาทิตย์ เนื่องจากตนเป็นผู้ใหญ่บ้าน ส่วนสามีทำงานเกี่ยวกับการบำรุงปุ๋ยต้องเดินทางออกต่างจังหวัดบ่อย ประกอบกับลูกสาวสามีเรียนอยู่ต่างอำเภอ ต้องเดินทางไม่ต่ำกว่า 30 กิโลเมตร จำเป็นต้องพักอาศัยอยู่กันคนละที่ แต่จะวีดีโอคอลพูดคุยกันทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ

เมื่อตุลาคม ปีที่ผ่านมา รู้สึกว่าสามีเปลี่ยนไป จากที่เคยวีดีโอคอลก็เริ่มไม่มีเวลา อ้างเหนื่อยงาน ตนพยายามไม่คิดอะไรมาก จนปีใหม่ที่ผ่านมา สามีได้โบนัสมาจะนำเงินมาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว แต่ปีนี้ไม่ให้  ซึ่งตนก็งอลเล็กน้อย แต่ยังคุยปกติ จนมาวันที่ 8 ม.ค. สามีอ้างจะไปรับแม่ พี่ชาย และพี่สะใภ้ ที่สุโขทัย เพื่อพาพี่ชายและพี่สะใภ้ไปผูกแขนแต่งงานกันที่ จ.พระเยา สามีบอกว่าต้องใช้เวลาเดินทางขับรถไปที่ จ.พะเยา น่าจะถึงเช้า ไว้ค่อยคุยกัน

แต่ตนรู้สึกเอ๊ะใจเพราะ พี่ชาย-พี่สะใภ้ อายุ 50 แล้ว แต่สามีส่งโลเคชั่นมาให้ ตนจึงขอเลขบัญชีพี่ชายและพี่สะใภ้เพื่อโอนเงินใส่ซองช่วยงานไป 1,000 บาท พอถึงงานแต่งงาน สามีก็พยายามไม่คุยกับตนอ้างว่าเสียงเพลงดัง พอข้ามคืนมา สามีก็อ้างว่าโทรคุยกันไม่ได้ให้พิมพ์คุย ตนจึงระแคะระคาย 

จนวันที่ 13 ม.ค. สามีได้เดินทางกลับมาบ้าน ตนก็เดินทางไปเจอสามี และว่าจะไปตั้งแค้มป์ปิ้งที่ต่างจังหวัด สามีของตนก็ทำตัวปกติ เก็บข้าวเก็บของออกเดินทางไปเที่ยวกันตามปกติ ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ วันที่ 23 ม.ค. เห็นว่าสามีมีโทรศัพท์ 2 เครื่อง 

สามี อ้างว่าเป็นโทรศัพท์ของลูก ตนรู้สึกเริ่มสงสัยทำไมถึงมีโทรศัพท์สองเครื่อง จังหวะที่สามีเข้าห้องน้ำตนเห็นโทรศัพท์วางไว้ จึงสุ่มรหัสผ่าน เป็นวันเดือนปีเกิด สุดท้ายเปิดเครื่องได้ ตนกดโทรศัพท์เข้าไปที่แอพพลิเคชั่นเฟสบุ๊ก พบว่าไม่ใช่เฟสบุ๊กที่ใช้กับตน มีสองเฟสบุ๊ก ตนจึงดูที่แชทพบว่ามีการพูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งประเด็นเรื่องชู้สาว ผู้หญิงบอกว่าท้อง และอยู่ที่ จ.พะเยา พร้อมรูปงานแต่งต่างๆ ทำให้รู้ทันทีว่าตนถูกหลอก เนื่องจากจับได้ว่าเมื่อวันที่สามีไปงานแต่งพี่ชาย สามีกลับหนีไปแต่งงานกับผู้หญิงใหม่เสียเอง

สุดท้ายตนจึงรวบรวมสติและเรียกสามีมาคุยและถามว่า “ที่บอกไปงานแต่งพี่ชายคือไปแต่งงานเองใช่ไหม ทำไมถึงทำแบบนี้” กลับได้คำตอบว่า “สันดานพี่เป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่เราอะ ไม่รู้เอง” หลังจากนั้น ตนบอกสามีให้กลับบ้านไป และได้ขอโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ตนอยากออกมาต่อสู้ทวงสิทธิ ของผู้หญิงว่าผู้ชายไม่ควรทำแบบนี้ จะเดินหน้าฟ้องร้องให้ถึงที่สุดเพื่อให้เป็นคดีตัวอย่างต่อไป