ผู้ว่าฯกทม.ยันแก้โครงสร้างพื้นฐานไม่พอ ต้องแก้ "จิตสำนึก" คนใช้รถใช้ถนน
26 ม.ค. 2565, 19:07
วันนี้ ( 26 ม.ค.65 ) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ถึงกรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ขี่รถบิ๊กไบค์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย เสียชีวิตบริเวณทางม้าลาย โดยกล่าวถึงการแก้ปัญหาด้านความปลอดภัยบนทางม้าลายของกรุงเทพมหานคร ระบุว่า
ต้องขยายการ “จับ” “ปรับ” ถึงเปลี่ยนจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนนให้ได้ จากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนคนเดินข้ามถนน บริเวณหน้าสถาบันไตรภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท เป็นการสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้และกระทบต่อความรู้สึกของพวกเราทุกคน ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นเลย เพราะตรงนั้นเป็นทางม้าลาย จุดที่หลายคนคิดว่าปลอดภัยสำหรับการข้ามถนน แต่กลับเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุและยังมีอีกหลายทางม้าลายที่เกิดเหตุเช่นนี้ ในพื้นที่ของ กทม. ที่ในถนนมีทางม้าลายเพื่อให้คนข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา กทม.ได้แก้ไขปรับปรุงจุดที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบนทางม้าลาย ด้วยการเพิ่มสัญลักษณ์เตือน เช่น ทาสีทางม้าลายให้เห็นเด่นขึ้น ตีเส้นชะลอความเร็วแบบสั่นสะเทือน หรือเส้นซิกแซกในช่องจราจรก่อนถึงทางม้าลายเพื่อให้คนขับรถเพิ่มความระมัดระวังขึ้น
แต่ก็ยังมีคนขับรถบางส่วนที่เมินเฉยสัญลักษณ์เตือนของทางม้าลาย จงใจที่จะฝ่าฝืนกฎจราจร ความสูญเสียจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับคนเดินถนนแบบนี้ จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าผู้ที่ฝ่าฝืน มีจิตสำนึกและตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนร่วมกัน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ขับรถที่ยังฝ่าฝืนกฎจราจรอยู่ อาจแก้ไม่ได้ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพียงอย่างเดียว ที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ บริเวณแยกอโศกที่มีปัญหาการฝ่าฝืนกฎจราจรเป็นจำนวนมาก ซึ่ง กทม.พยายามจะใช้เป็นต้นแบบของความปลอดภัยทั้งคนข้ามถนน และผู้ใช้รถ โดยการปรับสภาพพื้นผิวทางเท้า ถนน และทางเชื่อมต่อให้สะดวกต่อ คนข้ามถนนทุกกลุ่ม และปรับปรุงทางม้าลายให้ด้วยการทาสีแดงให้เด่นขึ้น ขยายช่องจอดของรถจักรยานยนต์เพื่อรอสัญญาณไฟแดง เพิ่มไฟส่องสว่าง ทำให้แยกอโศก เป็นแยกที่มีความพร้อมทางกายภาพที่จะสร้างความปลอดภัยเป็นอย่างมาก
แต่ก็ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนนได้จริง มีผู้ฝ่าฝืนตั้งแต่เริ่มโครงการจับปรับด้วยเทคโนโลยี AI วันที่ 1 ม.ค. 65 กว่า 25,000 ราย หรืออาจเฉลี่ยวันละ 1,000 ราย ซึ่งแม้จะมีที่จอดติดไฟแดงเหลือว่างมากมาย แต่ก็ยังมีการจอดทับทางม้าลาย ดังนั้น การแก้ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ “การแก้จิตสำนึกของผู้ใช้รถใช้ถนน” โดยใช้เทคโนโลยีให้มากขึ้นและใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้น้อยลง ก็คือ เมื่อมีคนจอดรถทับทางม้าลายจะไม่มีตำรวจเรียกรถเพื่อจับปรับ แต่จะใช้กล้องวงจรปิดเทคโนโลยี AI เป็นตัวช่วยจับรถยนต์รถจักรยานยนต์ที่ยังจอดทับเส้น โดยกล้องจะสแกนแผ่นป้ายทะเบียนอัตโนมัติ มีหลักฐานภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ส่งไปที่สถานีตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจจับปรับตามกฎหมาย ออกใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ส่งไปถึงหน้าบ้านเลย เป็นการใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยบังคับใช้กฎหมายได้ 100%
วิธีการนี้จะทำให้ผู้ที่ชอบฝ่าฝืนเกิดความเกรงกลัว และหากเกิดขึ้นหลาย ๆ แยกของ กทม. จะทำให้สามารถปรับพฤติกรรมหมู่ใน กทม. หากใช้ได้ผล กทม.ก็จะผลักดันให้ถูกนำไปใช้แก้ไขปัญหาในทุกแยกและทุกทางม้าลายทั่วกรุงเทพมหานครอีกต่อไป ในวันศุกร์นี้ กทม. จะนำเสนอโมเดลนี้ให้กับทางตำรวจให้นำมาใช้เพิ่มเติมอีก 10-20 แยก และอีกหลาย ๆ ทางข้าม รวมทั้งเตรียมขยายต่อให้เกิดขึ้นอีกหลาย ๆ แยกใน กทม. ในอนาคต เพื่อที่จะทำให้เกิดการ “จับ” “ปรับ” และเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ที่ฝ่าฝืนวินัยการจราจรให้ได้ครับ