เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



มท.1 แจงต้องถอดบทเรียนกรณี "หมอกระต่าย" บังคับใช้กม.เคร่งครัด-สร้างจิตสำนึกผู้ใช้รถใช้ถนน


27 ม.ค. 2565, 16:57



มท.1 แจงต้องถอดบทเรียนกรณี "หมอกระต่าย" บังคับใช้กม.เคร่งครัด-สร้างจิตสำนึกผู้ใช้รถใช้ถนน




วันนี้ ( 27 ม.ค.65 ) ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับความปลอดภัยทางการจราจรของประเทศไทย จากกรณีแพทย์หญิงวราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย

ในเรื่องดังกล่าว พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้กล่าวว่า รัฐบาลและสังคมไทยรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนับเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของครอบครัวและบุคลากรทางการแพทย์ที่ทรงคุณค่าของประเทศ ที่ไม่สามารถหาอะไรมาทดแทนและบรรเทาได้ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และคนทำผิดต้องรับโทษตามกฎหมาย



พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า  ในกรณีของหมอกระต่ายนั้น จำเป็นต้องมีการถอดบทเรียน ต้องสร้างให้เกิดวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนนให้เกิดขึ้นในสังคม ผู้ขับขี่มีวินัย มีจิตสำนึก และปฏิบัติตามกฎหมาย สำหรับกลไกเรื่องการใช้รถใช้ถนนและความปลอดภัยทางถนน รัฐบาลได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการที่จะทำให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนนกับผู้ใช้รถใช้ถนน แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ส่วนแรก คือ ผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งจะต้องมีวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนนที่ดี ปฏิบัติตามกฎหมาย มีมารยาทในการใช้รถใช้ถนน และตระหนักถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ และส่วนที่สอง คือ การบังคับใช้กฎหมายที่เคร่งครัด ที่จะต้องส่งเสริมควบคู่กันไปเพื่อให้การใช้รถใช้ถนนเป็นไปอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย สิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จสูงสุดของการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน คือ ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องมีวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนที่ดี ปฏิบัติตามกฎหมาย และมีระเบียบวินัยจราจร ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทได้ ไม่ใช่เพียงการบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และขอเรียนว่าที่ผ่านมารัฐบาลมีความพยายามที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง มีความพยายามในการแก้ไขกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ เพื่อให้การใช้กฎหมายบรรลุวัตถุประสงค์ ทำให้ประชาชนเกิดความตระหนักในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น โดยมีเป้าหมายให้สังคมไทยมีวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัยในทุกพื้นที่


พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวต่อว่า  การสร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนตั้งแต่เด็กเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ได้อยู่ในบริบทการใช้รถใช้ถนนที่ถูกต้อง นอกจากนั้นเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่จะสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในครอบครัวได้ ซึ่งรัฐบาลก็ได้มีการพยายามที่จะส่งเสริมและดำเนินการอยู่ รวมถึงผลักดันให้มีการนำเอาเรื่องดังกล่าวเข้าไปอยู่ในหลักสูตรของการเรียนด้วย อีกทั้ง นายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้เรื่องความปลอดภัยและการลดอุบัติเหตุทางถนนเป็นวาระสำคัญ ให้มีการดำเนินการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปีไม่ใช่เฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการที่มีอยู่และรณรงค์สร้างให้คนมีวินัยและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาร่วมกันปฏิบัติ การที่จะบังคับใช้กฎหมายเป็นเพียงส่วนนึงเท่านั้น เพราะยังมีคนจำนวนมากที่ทำผิดกฎหมายแล้วไม่สามารถจับได้ทั้งหมด ฉะนั้น ประชาชนจะต้องให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎจราจร มีวินัยการใช้รถใช้ถนน และการรักษากฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดถือเป็นสิ่งสำคัญ
     
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ในด้านการออกใบอนุญาตขับขี่ตามกฎหมาย ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับขี่ จะต้องให้ความสำคัญในการใช้รถใช้ถนน มีวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนนที่ดี ซึ่งขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในระหว่างการแก้กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ เพื่อให้ใบขับขี่ตามกฎหมายที่ออกมามีความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ขับขี่ต้องมีความพร้อมอย่างแท้จริง พร้อมทั้งกล่าวเน้นย้ำว่า พวกเราคนไทยทุกคนจะต้องตระหนักโดยตลอดว่า การขับรถบนท้องถนนต้องมีระเบียบวินัย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และขอเชิญชวนให้สังคมไทยต้องรณรงค์ว่า ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องมีจิตวิญญาณ มีวินัย มีวัฒนธรรมการใช้รถที่ดี สังคมใดจะดี คนในสังคมต้องดี สิ่งนี้จะต้องทำควบคู่กับความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมาย






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.