จากกรณี นายศิวกร เฉลิมแสนยากร อายุ 29 ปี ได้ตามมาง้อขอคืนดี น้องปรางค์ แต่ไม่เป็นผล จึงก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ ขนาด .38 ยิง 2 พี่น้อง คือน.ส.ฉัตรสุดา หรือน้องเดียร์ มีประโคน อายุ 28 ปี (เสียชีวิต) และน.ส.ปรางค์อิสรา หรือน้องปรางค์ ธีรวิกรมมนูญ อายุ 33 ปี อดีตแฟนสาว (บาดเจ็บสาหัส) เหตุเกิดที่ ห้องเช่าเลขที่ 128/8 ห้องที่ 9 ซอยมิตรแท้ 3 หมู่ 3 ตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ก่อนที่ผู้ต้องหาจะเข้ามอบตัว ที่ บริเวณริมลำน้ำมูล เขตพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ไกลหนัก

ด้านนายปราโมทย์ มูลทองหลาง อายุ 45 ปี ญาติของน้องเดียร์และน้องปรางค์ เปิดเผยว่า มีโทรศัพท์นิรนามโทรมาขอเคลียร์ ไม่ให้ฟ้องคดีแพ่ง จะให้ 5 แสนบาท  เราบอกตอบกลับไปว่าไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ ต้องถามแม่คนเดียว ว่าคิดยังไง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนเจ็บจะเป็นยังไงต่อ จะรักษานานขนาดไหน จะหายกับมาเป็นปกติหรือไม่ เงินจำนวน 5 แสนจะช่วยอะไรได้มั่ง นอกจากนี้ยังมีลูกของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ อีก 3 คน ที่จะต้องเลี้ยงดู อยากฝากคู่กรณีให้มารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปบาง สงสารเด็กตาดำๆบาง กว่าจะโต มันจุกที่ใจ อยากให้เห็นใจกันหน่อย อยากให้มาพูดคุยกันตรงๆไม่ต้องผ่านคนอื่นจะได้หาทางออกร่วมกัน ทุกวันนี้ก็ยังไม่ให้อภัยเพราะยังรับกับเหตุการณ์ไม่ได้ เพราะมันโหดร้ายเกินไป

ล่าสุด นางมยุรี วิจิตรศักดิ์ อายุ 52 ปี มารดา เล่าว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อยากให้ตำรวจช่วยดูแลความปลอดภัย ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถือว่าเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์และรู้เรื่องทุกอย่าง และเป็นห่วงความปลอดภัยของหลานสาวทั้ง 3 คน ซึ่งเป็นลูกของน้องเดียร์ ผู้ตาย อายุ 4 ขวบ 1 คน และลูกน้องปรางค์ ผู้บาดเจ็บสาหัส 2 คน คือ อายุ 5 ขวบกับ อายุ 7 ขวบ เพราะกลัวถูกข่มขู่เรื่องคดี เพราะเราเป็นชาวบ้านตาดำๆ ต่อมาพบว่ามีโทรศัพท์ปริศนา อ้างว่าเป็นทนายฝั่งตรงข้าม พูดคุยกับญาติพี่น้องคนหนึ่ง สรุปใจความว่าจะช่วยเงิน 5 แสนบาท ทั้งผู้ตายและผู้บาดเจ็บ 2 พี่น้อง ไม่ให้ฟ้องคดีแพ่ง ส่วนคดีอาญาก็ว่าไปตามกฎหมาย โดยตนมองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าคนบาดเจ็บจะใช้เงินรักษาเท่าไร อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น หากพิการ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ รวมไปถึง หลานสาวอีก 3 คน กำพร้าพ่อตั้งแต่เล็ก ยังต้องมาเสียแม่อีก จะอยู่ยังไง กว่าจะส่งเสียเรียนจบอีก เด็กก็ไม่รู้เรื่องต้องมารับกรรมไปด้วย จึงอยากได้รับความเป็นธรรม หากจะผู้คุยต้องคุยกับตนโดยตรง ไม่ต้องผ่านคนอื่น อีกทั้งตำรวจก็ไม่เคยเรียกคู่กรณีมาเจรจาไกลเกลี่ยคดีแพ่งแต่อย่างใด ส่วนงานศพลูกสาวคนเล็ก ก็ไปกู้เงิน มาจัดงานศพให้ลูก โดยไม่มีญาติผู้ก่อเหตุมาร่วมงานศพแต่อย่างใด