ไฟไหม้บ้าน ! "คุณยายวัย 77 ปี" เหลือแต่ซาก สุดอัศจรรย์พบ พระบรมฉายาลักษณ์ "รัชกาลที่ 9" ไม่ไหม้
1 ก.พ. 2565, 09:12
วันที่ 31 ม.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่บ้านเลขที่ 29 หมู่ที่ 9 บ้านแคน ตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของ นางเพ็ง อ่างเฮ้า อายุ 77 ปี พ่อของชายพิการ โดยสภาพเหลือแต่เสาบ้านไว้ดูต่างหน้า และนายเอกชัย อ่างเฮ้า บุตรชายพิการได้รับบาดเจ็บ ถูกไฟลวกที่บริเวณแผ่นหลัง ต่อมาได้มีส่วนราชการ นำโดย นางจันทร์เพ็ญ กิติภัทย์พิบูลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับกิ่งกาชาดอำเภอรัตนบุรี และคณะ ได้เดินทางมามอบเงินและสิ่งของช่วยเหลือ จำนวน 10,000 บาท และยังมี นายสมหวัง สันวัง นายก อบต.ธาตุ นายยุทธศาสตร์ แก้วดี ผู้อำนวยการโรงเรียนธาตุศรีนคร ได้ร่วมมอบเงินและมอบสิ่งของ จากการรับบริจาคจากคณะครูและนักเรียนอีก เป็นเงินจำนวน 13,862 บาท ในโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” และยังมี ชาวบ้านใกล้เคียงที่ทราบข่าว ได้ให้การช่วยเหลือทั้งเงิน และมอบสิ่งของเครื่องใช้อีกจำนวนหนึ่งด้วย
ซึ่งจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ภายหลังจากเพลิงสงบลง เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ พบข้าวของเครื่องใช้ถูกเพลิงไหม้เสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นก็คือ พระบรมฉายาลักษณ์ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย ทั้งที่แขวนอยู่บนประตูทางเข้าห้องครัว แต่ส่วนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ได้ถูกเพลิงไหม้เสียหายหมด
โดย นายจรัส จินพละ อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งผู้ที่ได้เข้าร่วมในการตรวจสอบความเสียหาย ได้กล่าวว่า รูปพระบรมฉายาลักษณ์ ของ ร.9 ที่แขวนอยู่บนประตูทางเข้าห้องครัวนั้น ตนเห็นครั้งแรกที่เข้าไปพบ ก็รู้สึกแปลกใจมาก เพราะไม้ที่ตอกตะปูแขวนพระบรมฉายาลักษณ์ ได้ถูกเพลิงไหม้หมด แต่ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ของในหลวง ร.9 มีแต่เขม่าติดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง ซึ่งตนมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้คือ บารมีของพระองค์ท่านในหลวง ร.9 อย่างแน่นอน
ด้านคุณยายเพ็ง อ่างเฮ้า อายุ 77 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกเพลิงไหม้ ได้กล่าวว่า ตนรู้สึกคลายความตกใจลงบ้างเมื่อเห็นส่วนราชการหลายภาคส่วน เข้ามาให้กำลังใจและช่วยเหลือตนในครั้งนี้ ตนซาบซึ้งและไม่รู้จะกล่าวคำไหนเพื่อตอบแทนในน้ำใจของทุกท่านที่เมตตากับครอบครัวของตนในครั้งนี้ได้
สำหรับการช่วยเหลือจากนี้ต่อไป ซึ่ง นายก อบต.ธาตุ จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนของท้องถิ่น เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป และสำหรับช่องทางการช่วยเหลือด้านอื่นๆ