หมอเจนจุดธูปส่ง 2 ดวงวิญญาณคนขับรถไฟ-ช่างเครื่อง แยกทางพาดรถไฟ 100 ศพ
1 ก.พ. 2565, 16:36
วันนี้ (1 ก.พ.65) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีอุบัติเหตุรถไฟดีเซลไฟฟ้า 4106 ขบวนรถเร็วที่ 134 (หนองคาย-กรุงเทพ) สีส้มม่วง ความยาว 9 โบกี้มีผู้โดยสารกว่า 100 คนกำลังเดินทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ชนรถบรรทุกลูกพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน82-5889 ศรีสะเกษซึ่งบรรทุกมันเส้นมาเต็มคันรถ ผลจากแรงประทะของยักษ์ชนยักษ์ครั้งนี้ทำให้รถรถไฟชนกับพ่วงรถบรรทุกกระเด็นตกลงไปในคลองข้างๆ บริเวณจุดขั้นรถไฟหนองขอนกว้าง ทำให้คือนายวุฒิชัย เรืองอร่าม ซึ่งเป็นคนขับรถไฟและนายเจนณรงค์ ชื่นช้อย ช่างเครื่องรถไฟเสียชีวิตทันที 2 ศพและมีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและพากันตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.45 น.ของวันที่ 31 ม.ค.65 ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ฯ ที่เกี่ยวข้องว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ โดยขบวนรถไฟที่ชนรถพ่วง เจ้าหน้าที่ของทางการรถไฟฯ ได้เปลี่ยนหัวรถจักรรถไฟสามารถไปส่งผู้โดยสารต่อได้ตั้งแต่ตี 3 เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดวันนี้ทางพนักงานสอบสวนสภ.เมืองอุดรธานีได้เรียกนายสุชาติ มากสุด เจ้าหน้าที่จุดกั้นถนนหนองขอนกว้างและนายสถานีรถไฟไปสอบสวนเพิ่มเติมว่าสาเหตุของการอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากอะไร เพราะทางฝ่ายคนขับรถบรรทุกยืนยันว่าขณะขับผ่านทางพาดรถไฟไม่มีสัญญาณว่ารถไฟผ่านและไม่กั้นยังไม่ได้ลง ซึ่งตร.ตั้งข้อสงสัย อาจจะเกิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่จุดกั้นหรือคนขับรถไฟ ซึ่งอยู่ในระหว่างการสอบสวน
ขณะเดียวกันที่บริเวณที่เกิดเหตุวันนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้นำทีมช่างลงพื้นที่ซ่อมแซมบำรุงเส้นทางโดยมีการเปลี่ยนหมอนลองรางรถไฟและตัวยึดรางรถไฟ เพื่อให้สามารถเดินรถได้ปกติ ส่วนทีมประกันของฝ่ายรถบรรทุกได้ลงพื้นที่หาแนวทางเก็บกู้ซากโดยคาดว่าอาจจะต้องใช้รถเครนขนาดใหญ่มายกขึ้น
นายสมพร พิรุนสุนทร สาราวัตรบำรุงทางอุกรธานี บอกว่า วันนี้ได้นำทีมช่างการรถไฟแห่งประเทศไทย ออกมาซ่อมบำรุงตัวยึดเหนี่ยวรางรถไฟ หลังเกิดอุบัติเหตุคืนวานนี้ เบื้องต้นวันนี้มีการซ่อมแซมเปลี่ยนหมอนรองไป 3 และตัวยึดอีกหลายตัวระยะทางความยาว 286 เมตร สำหรับทางรถไฟระยะเส้นทางนี้ตอนนี้รถไฟสามารถวิ่งได้แต่ต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร และจะสามารถซ่อมแซมให้แล้วเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้วิ่งได้ปกติภายในวันนี้
ขณะที่ทีมสอบสวนอุบัติเหตุสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่ออธิบายลักษณะการเกิดอุบัติเหตุการบาดเจ็บและการเสียชีวิต และทำพิธีไสยศาสตร์บอกกล่าวให้ดวงวิญาณผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายคือคนขับรถไฟและช่างเครื่องไปสู่สุขติ โดยจุดธูป 1 ดอก กรวดน้ำอุทิศ และโปรดข้าวสารเสกตามความเชื่อ และไม่ให้มีตัวตายตัวแทนอีก
นางเจนจิรัสตรา วงศ์ประทุม พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ หรือ “หมอเจน” ทีมสอบสวนอุบัติเหตุจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า สิ่งที่ทีมสอบสวนอุบัติเหตุรู้ตอนนี้เบื้องต้นคือ ซึ่งเรามองดูแล้วเห็นชัดเจนเลยว่าหากรถไฟเห็นสัญญาณจากเจ้าหน้าที่ที่จุดปิดกั้น เขาจะไม่ข้ามถนนโดยพละ แต่เราก็ต้องสอบสวนต่อไปว่าทำไม สำหรับกายภาพจุดเกิดอุบัติเหตุจุดนี้มีถนนค่อนข้างกว้าง แนวปิดกั้นทางรถไฟไม่ควรเป็นคานมีคนควบคุมแบบนี้ ควรจะเป็นระบบปิดกั้นแบบ automatic จุดนี้เป็นจุดที่คนทำงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุกังวลมาก อีกทั้งสีของแผงกั้นเป็นสีที่ไม่สะท้อนแสงจุดนี้ คือ "ต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอีกจุดหนึ่งที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก"
ด้านชาวบ้านที่อยู่บ้านใกล้จุดเกิดเหตุ บอกว่า สาเหตุแท้จริงนั้นไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ส่วนตัวแล้วคิดว่าอาจจะเป็นเพราะความผิดพลาดเกิดจากรถไฟมากกว่า เพราะดูแล้วแผงกั้นไม่ปิดลง "หากแผงกั้นปิดลงอุบัติเหตุครั้งนี้คงไม่เกิดขึ้น" จากอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ทุกฝ่ายควรจะมีการปรับปรุงโดยเฉพาะการสื่อสารระหว่างสถานีกับจุดปิดกั้นจุดตัดทางรถไฟ "เหตุการณ์แบบนี้เกิดมาอายุได้ 35 ปีก็ไม่เคยเห็น ครั้งนี้หนักสุด ปกติหากเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถยนต์ต้องเป็นรถเล็กที่เป็นฝ่ายสูญเสีย แต่ครั้งนี้คนขับรถไฟเป็นฝ่ายสูญเสีย ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จุดนี้เป็นจุดที่เกิดเหตุบ่อยครั้งมาก เมื่อช่วงปีใหม่ก็มีรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชนกับแผงกั้นจนผู้เสียชีวิต และครั้งนี้ก็เกิดเหตุรถไฟชนรถบรรทุกพ่วงคนขับรถไฟและช่างเครื่องเสียชีวิตอีก 2 รายโดยชาวบ้านเชื่อว่าจุดแยกรถไฟแห่งนี้เป็นแยก 100 ศพเพราะมีคนเสียชีวิตแทบทุกปีและปีละหลายศพด้วย