วันนี้ ( 8 ก.ย.62 ) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงการทำงานของรัฐบาลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า เป็นการส่งสัญญาณถึงโอกาสทีเพิ่มขึ้นของการลงทุนจากต่างประเทศ และการขยายตลาดการค้าในระดับภูมิภาคและระหว่างภูมิภาคมีความชัดเจนมากขึ้น เห็นได้จากการมาเยือนของประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ที่นำไปสู่การลงนามระหว่างรัฐบาล 6 ฉบับ ประกอบด้วยความร่วมมือด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ การลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย การขนส่งคมนาคม การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การคุ้มครองข้อมูลข่าวสาร และการศึกษา

นอกจากนี้ยังมีวาระของการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของกลุ่มประเทศอาเซียน และระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา เพื่อพยายามแก้ไขข้อขัดแย้งเพื่อบรรลุข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป ที่อาจเกิดขึ้นปลายปีนี้ และในเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน ได้มีการลงนามในข้อตกลงต่างๆ ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนในภูมิภาค ขณะทางกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมไปเปิดการเจรจาการค้ากับอินเดียช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อขยายการส่งออกสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง รวมถึงการฟื้นฟูความตกลง FTA ไทย-สหภาพยุโรป และเตรียมเข้าร่วมการตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจเอเซียแปซิฟิก

นอกจากนี้ ครม.เศรษฐกิจได้เห็นชอบแพ็กเกจเร่งรัดการลงทุน และรองรับการย้ายฐานการผลิตสืบเนื่องจาการผลกระทบสงครามการค้า(จีน-สหรัฐ) อีกทั้ง ครม.เศรษฐกิจยังให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เตรียมจัดหาพื้นที่รองรับการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติแต่ละประเทศโดยเฉพาะ (จีน เกาหลี ไต้หวัน) ซึ่งทั้งหมดนี้จะเสนอให้ครม.พิจารณาในวันอังคารที่ 10 ก.ย.นี้

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การดำเนินการในรอบสัปดาห์เป็นความตั้งใจของรัฐบาลในการเปิดช่องทางและวางรากฐานเพื่อการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ /ส่งเสริมเอกชนให้มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านการดำเนินงานของหลายกระทรวงร่วมมือกัน