เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ลุยวัย 56" เบรกรถกะทันหัน หนุ่มขับตามหลังหัวร้อนไล่ยิง ซิ่งหนีตายเหินข้ามคูน้ำหวิดดับ


6 ก.พ. 2565, 16:40



"ลุยวัย 56" เบรกรถกะทันหัน หนุ่มขับตามหลังหัวร้อนไล่ยิง ซิ่งหนีตายเหินข้ามคูน้ำหวิดดับ





"ลุยวัย 56" เบรกรถกะทันหัน หนุ่มขับตามหลังหัวร้อนไล่ยิง ซิ่งหนีตายเหินข้ามคูน้ำหวิดดับ


เมื่อค่ำของวันที่ 5 ก.พ.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.20 น. ศูนย์วิทยุศรีไผท สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ แจ้งว่ามีเหตุขับรถยนต์ไล่ตามกันและใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ จนเป็นเหตุให้รถให้รถยนต์ที่ถูกไล่ยิง พุงข้ามคลองใต้ทางกลับรถบ้านโคกจ๊ะ ต.ท่าสว่าง อ.เมืองสุรินทร์ หลังจากได้รับเหตุแล้ว ได้ประสาน ให้ ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ ภักดี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ เดินทางไปยังบริเวณที่เกิดเหตุ บริเวณถนนเลี่ยงเมืองสุรินทร์ ใต้สะพานกลับรถบ้านโคกจ๊ะ ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจำนวนหนึ่ง รุดไปยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุดีแม๊คสีบรอน เทา สภาพหน้ารถพังยับเยิน กระจกด้านหน้าแตก ภายในรถยนต์นั่งกันมา 3 คน ทราบชื่อคนขับชื่อนายวินัย อายุ 56 ปี มีอาการปวดหลังและปวดตามร่างกาย คนนั่งข้างคนขับชื่อนายเดียน อายุ 69 ปี มีอาการปวดตามร่างกาย และนายนิติพงษ์ อายุ 23 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะแตกด้านขวาเป็นแผลฉีกขาดราว 4 เซนติเมตร ทั้ง 3 คนมีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้า




นายวินัย พิมพ์กรณ์ คนขับรถคันที่เกิดเหตุได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า หลังจากเสร็จงานที่ อำเภอกาบเชิง ได้เดินทางจะกลับบ้านพัก ช่วงเข้ามาตัวเมืองสุรินทร์ได้ผ่านมาบริเวณตลาดนัดคลองถม ค่ายวีรรวัฒน์โยธิน ซึ่งช่วงนั้นมีรถวิ่งจำนวนมากเนื่องจากวันนี้มีตลาดนัดพอดี ขณะที่รถได้มาถึงบริเวณดังกล่าวได้มีรถจักรยานยนต์วิ่งตัดหน้า เข้ามายังรถของตน จึงทำให้ต้องเบรครถรถยนต์กระทันหัน ทำให้รถยนต์กระบะคันหลังที่ตามมาเบรคกะทันหันด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นรถยนต์กระบะคันดังกล่าวจึงได้ขับตามมาและบีบแตรใส่ตน ตนจึงจอดรถ

คนขับรถกระบะ คู่กรณีคันดังกล่าว จึงได้เปิดกระจกรถยนต์พร้อมกับพูดว่าขับรถอย่างไรจะชนตูดแล้ว และต่อว่าด้วยคำหยาบคายว่า ให้ของลับ และด่าว่าเหี้ย ตนนั้นจึงได้ด่าสวนกลับไปด้วยของลับเช่นกัน หลังจากนั้นตนก็ขับรถออกมา และสังเกตได้ว่า รถคู่กรณีคันดังกล่าวได้ขับตามตนมา ตนจึงขับหนีออกมา ตามเส้นทางผ่านสามแยกเรือนจำ เข้ามายังหมู่บ้านเฟื่อฟ้า บ้านหลักวอ ทะลุงออกเส้นทางไปสี่แยกเลี่ยงเมืองท่าสว่าง พอดีเป็นช่วงไฟแดง ตนไม่ขับฝ่าไฟแดงแต่ขับออกทางซ้ายมา รถคันคู่กรณีก็ขับตามหลัง

ตนจึงขับจนถึงบริเวณถนนกลับรถใต้สะพานบ้านโคกจ๊ะ ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งช่วงนั้นก็เป็นเวลาเย็นแล้วแต่ยังไม่มืด และมีรถไม่มากนัก ตนและคนที่นั่งมาด้วย 3 คนในรถ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ตนและคนที่นั่งมาด้วยก็ตกใจมาก ตนจึงเร่งคันเร่งวิ่งตรงมายังที่กลับรถใต้สะพานกลับรถ แต่ด้วยความเร็ว และตกใจมากรถจึงเสียหลัก ทำให้รถกระบะที่ตนขับมานั้นเหินลอยข้ามคูน้ำไปยังอีกฝั่งระยะไกลประมาณกว่า 20 เมตรได้ โดยรถของตนนั้นได้ชนเข้ากลับ แบริเออร์ 2 อันที่กันถนนไว้จนหล่นไปในคูน้ำ

 



ส่วนรถของตนนั้นด้านหน้าพังยุบกระจกหน้ารถแตก แต่โชคยังได้ที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนักในเหตุการณ์ครั้งนี้ และรถกระบะคู่กรณีคนดังกล่าวก็ขับหลบหนีไป ตนจึงรีบโทรหาลูกชาย และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาที่เกิดเหตุ และได้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจสุรินทร์ เพื่อให้ตามผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฏหมาย และแจ้งมายังผู้สื่อข่าวเพราะเกรงว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้า ตนนั้นจำทะเบียนรถคนร้ายที่ก่อเหตุไม่ได้ จำได้เพียงแต่เป็นรถ 4 ประตูสีขาวมีสติ๊กเกอร์สีดำติดอยู่ด้านข้างประตูทั้งสอง

ด้าน นายวินัย พิมพ์กรณ์ คนขับรถยนต์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชาย 1 คน ลักษณะผมสั้นเตียน สวมเสื้อกล้ามสีขาว มีรอยสักที่บริเวณแขนด้านขวานั่งมากับ ผู้หญิง 1 คน

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.