สืบเนื่องจากช่วงเช้าวันนี้ ( 7 ก.พ.65 ) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ "ทนายเดชา" ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจทนายคลายทุกข์ ระบุว่า "ทนายเดชา ขอโทษทนายษิทรา ที่ผ่านมาเกิดการเข้าใจผิดไม่ได้เป็นอย่างที่ผมเคยพูดไป และวันนี้ทั้งสองฝ่ายได้ทำความเข้าใจกันแล้ว เรามาทำงานเพื่อสังคมกันดีกว่า #จบศึกทนาย" 

จากนั้นทนายเดชา ยังได้โพสต์เพิ่มเติมอีกว่า ผมและทนายตั้มได้ทำความเข้าใจกันภายใต้การสนับสนุนของทนายอาคมในที่สุดก็สามารถที่จะตกลงกันได้และผมได้กล่าวขอโทษทนายตั้มก่อนหลังจากนั้นทนายตั้มก็ได้ให้อภัยผมแล้วขอโทษผมเช่นกัน ที่ผ่านมาก็ไม่ต้องพูดถึงถือว่าเป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อนนับแต่นี้เป็นต้นไปผมให้ทนายตั้มก็จะร่วมมือกันทำงานเพื่อสังคมต่อไปทะเลาะกันไปก็ไม่ได้อะไร หัวหน้าคณะของศาลอาญาได้กล่าวไว้ว่าต่างคนต่างมีความรู้ต่างคนต่างมีประสบการณ์น่าจะเอาความรู้และประสบการณ์ไปช่วยเหลือสังคมจะดีกว่า นับแต่วันนี้เป็นต้นไปผมคงไม่พูดถึงทนายตั้มในเรื่องที่ไม่ดีก็ไป ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันที่จะถอนคดีทุกเรื่องทุกศาลทุกสถานีตำรวจและที่คณะกรรมการมรรยาททนายความ

ก่อนที่ล่าสุด "ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้ออกมาโพสต์ข้อความในกรณีเดียวกันผ่านเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ระบุว่า วันนี้ผมได้ปรับความเข้าใจกับอาจารย์เดชาแล้วนะครับ ได้พูดคุยเปิดอกกันอย่างจริงจัง ทนายเดชายอมรับอย่างจริงใจ ว่าเขาถูกปลุกปั่น ได้รับข้อมูลอันเป็นเท็จมากมายเกี่ยวกับตัวผม และผิดเองที่ไม่รับฟังข้อมูลจากปากผมเองและเชื่ออีกฝ่ายหนึ่ง ส่วนตัวผมเองก็ผิดเช่นกัน ในฐานะทนายรุ่นน้อง ก็ต้องกราบขอโทษอาจารย์เดชาเช่นกันที่หลายครั้งก็ใช้อารมณ์ในการตอบโต้ แทนที่จะใช้เหตุผลในการอธิบายแต่แรก พวกเราเลยตัดสินใจว่าต่างคนต่างให้อภัยและถอนฟ้องในทุกคดีกันหมด และเลือกใช้เวลาหลังจากนี้ในการช่วยเหลือสังคมแทน ผมยืนยันมาตลอดนะครับ ใครที่เข้าใจผมผิด จากการกระทำของพี่ชายผู้แสนดี ถ้ามาเปิดใจกับผม ขอโทษขอโพยผม ผมยินดีให้อภัยและก้าวต่อไปข้างหน้าได้ แต่กับเจ้าตัวที่สร้างเรื่องราวทำลายผม แค้นนี้ต้องชำระ คุณคือสาเหตุที่ทำให้หลายคนต้องเดือดร้อน ถึงตอนนี้คุณจะแสงมอดดับไปเกือบหมด สื่อเอย ประชาชนเอย เขาตาสว่างกันจนแทบไม่ให้พื้นที่แล้ว ยังไงคุณก็ต้องรับผิดชอบผลจากการกระทำของคุณ ไว้เจอกันในศาลนะคร้บ  อย่าเลื่อนบ่อย ผมคิดถึง