สำหรับสถานการณ์น้ำเหนือที่ไหลมาจาก จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ เริ่มมาถึงลุ่มเจาพระยาจังหวัดนครสวรรค์แล้ว ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลัก อย่างปิง วัง ที่รับน้ำจากจังหวัดตาก กำแพงเพชร แม่น้ำยมและน่าน ที่รับน้ำจากพิจิตร พิษณุโลก ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเนื่องบางช่วงที่ต่ำเริ่มล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้ว โดยเฉพาะที่อำเภอหนองบัว ต้องรับน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ พิจิตร ขณะนี้หลายหมู่บ้านเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว

 

นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้เดินทางมาตรวจสอบประตูระบายน้ำ ที่รับน้ำจากแม่น้ำยมและน่านเข้าสู่บึงบอระเพ็ด ในพื้นที่หมู่ 1 ต.แควใหญ่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำที่ไหลเข้าสู่บึง ซึ่งพบว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำภายในบึงบอระเพ็ดมีอยู่เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ จากความจุเต็มอ่างประมาณ 180 ล้านลูกบาศก์เมตร ประกอบที่ผ่านมา มีการเปิดประตูระบายน้ำ จำนวน 2 จุด เพื่อผันน้ำเข้าสู่บึงเพียง 20 เซนติเมตรเท่านั้น จึงได้สั่งการให้มีการเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 50 เซนติเมตร พร้อมกับให้ทาง อบจ.นครสวรรค์ นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำน่านให้ไหลเข้าสู่บึงบอระเพ็ดให้ได้มากที่สุด ในการกักเก็บน้ำไว้ใช้ต่อไป เนื่องจากมีรายงานคาดการณ์ว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ มวลน้ำที่ไหลหลากจากภาคเหนือลงมา จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และอาจจะไมมีฝนตกชุกเหมือนที่ผ่านมา

 

 

ดังนั้น การสั่งการให้เพิ่มการเปิดประตูผันน้ำเข้าสู่บึงบอระเพ็ดเป็น 50 เซนติเมตร จะทำให้น้ำจากแม่น้ำน่านไหลเข้าสู่บึงบอระเพ็ดมากขึ้นถึงวันละมากกว่า 4 แสนลูกบาศก์เมตร ซึ่งก็ยังมีมวลน้ำที่ไหลจาก จ.เพชรบูรณ์ ผ่าน อ.ไพศาลี และ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เข้ามาสมทบอีกเส้นทางถึงวันละกว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงทำให้บึงบอระเพ็ดสามารถรับน้ำได้รวมกันทั้ง 2 เส้นทาง ได้มากกว่า 1 ล้าน 5 แสน ลูกบาศก์เมตร ซึ่งนอกจากจะสามารถช่วยลดอุทกภัยในเขตภาคกลางแล้ว ยังสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้งได้อีกด้วย

ด้านนายวชิระ กว้างขวาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดเขต 2 นครสวรรค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ มวลน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำน่าน จะอยู่ที่ประมาณ 1 พันกว่าลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งในวันพรุ่งนี้ จะมีปริมาณไหลผ่านเยอะสุดอยู่ที่ 1 พัน 2 ร้อยลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

 

 

ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มีการสั่งการให้ทาง อบจ.นครสวรรค์ นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งตรงปากทางประตู เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำน่านให้ไหลเข้าสู่บึงบอระเพ็ดให้ได้มากที่สุด  หรือเฉลี่ยวันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากชลประทาน จ.นครสวรรค์ จะมีการประสานไปยังเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ให้มีการชะลอการปล่อยน้ำด้วย เนื่องจากได้รับรายงานว่า มวลน้ำจำนวนมากที่ไหลจากจังหวัดทางภาคเหนือลงมาผ่านแม่น้ำน่าน น่าจะหมดไปภายใน 6-7 วันก่อนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ดังนั้น หากเขื่อนเจ้าพระยามีการปล่อยน้ำออกไปมาก ก็อาจจะทำให้ปริมาณน้ำลดปริมาณลงมากได้เช่นกัน