เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"เจ้าของธุรกิจบ้านจัดสรร" หันมาทำแปลงสาธิตการปลูกพืชกระท่อม แบบครบวงจร เปิดโอกาสให้เกษตรกร เข้าร่วมเป็นสมาชิก


17 ก.พ. 2565, 15:11



"เจ้าของธุรกิจบ้านจัดสรร" หันมาทำแปลงสาธิตการปลูกพืชกระท่อม แบบครบวงจร เปิดโอกาสให้เกษตรกร เข้าร่วมเป็นสมาชิก




สำหรับประเทศไทยจัดให้กระท่อมเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 แต่ในปัจจุบันได้มีการพิจารณาผ่านรัฐสภาและมีมติปลดล็อก พืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถปลูก หรือซื้อ ขาย ใบสด ที่ไม่ได้ปรุงหรือทำเป็นอาหารได้โดยไม่ผิดกฎหมาย กระท่อมเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ปานกลางเป็นสมุนไพรท้องถิ่นที่ชาวบ้านใช้กันมาอย่างยาวนาน โดยใช้ใบสดหรือใบแห้งนำมาเคี้ยว สูบ หรือชงเป็นน้ำชา เพื่อให้มีแรงทำงานได้นานขึ้น รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ไม่อยากอาหาร ทนแดดมากขึ้น

วันนี้ 17 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าที่ผ่านมา ได้เดินทางไปยังแปลงปลูกกระท่อม ตำบลหนองกุ่ม ในอำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ได้ทำพิธีเปิดโครงการแปลงสาธิตและปลูกพืชกระท่อมบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ของคุณปัณณธร  วงศ์กาสิทธิ์ ชาวจังหวัดนครปฐม โดยมีนายก องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกุ่ม พร้อมผู้ช่วยเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี และอดีตผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงเกษตรกรไปร่วมเปิดโครงการแปลงสาธิตการปลูกกระท่อม ของตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี แห่งนี้เป็นจำนวนมาก  

คุณปัณณธร  วงศ์กาสิทธิ์ ปัจจุบันประกอบธุรกิจหมู่บ้านจัดสรรขายในหลายพื้นที่ แต่ปัจจุบันมาเจอสถานการณ์ยุคโควิด – 19 ธุรกิจนี้เริ่มสบเซาลงไป  จึงคิดหันมาประกอบธุรกิจ ทำแปลงสาธิตและปลูกพืชกระท่อม  ซึ่งหลังจากที่ทางรัฐบาลได้ทำการปลดล็อก พืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ เป็นที่เรียบร้อย นอกจากทำแปลงปลูกกระท่อมของตนเองในพื้นที่อำเภอบ่อพลอย และอำเภอด่านมะขามเตี้ย ทั้งหมดหลายร้อยไร่ แล้ว นอกจกานี้ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนในชุมชน และจากหลายพื้นที่ร่วมเป็นสมาชิกนำต้นกล้ากระท่อมไปปลูก และเมื่อได้ผลผลิตออกมาแล้วสามารถนำกลับมาขายคืนให้กับทางบริษัทตามราคาท้องตลาด โดยสมาชิกไม่ต้องเกิดวิตกว่าเมื่อผลผลิตออกมามาแล้วหาตลาดไม่ได้ เป็นการสร้างความมั่นใจแก่เกษตรกร  โดยเวลานี้ทางบริษัทปัณณธร  ได้เตรียมพื้นที่ก่อสร้างโรงงานผลิตยาจากพืชกระท่อม อยู่ในจังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นการรองรับผลผลิตกระท่อมของเกษตรกรที่เป็นสมาชิก นำกล้าต้นพันธุ์กระท่อมของบริษัทกลับไปปลูก  นอกจากนี้ทางบริษัทยังคอยบริการให้ความรู้แก่สมาชิกทุกท่านด้านการปลูกอย่างถูกวิธี หากเกษตรกรนำไปแล้วไม่เข้าใจวิธีการลงแปลงปลูก เกษตรกรต้องการจะทราบอะไรทางบริษัท ยังมีเจ้าหน้าที่ไปคอยแนะนำการปลูกเพื่อให้ผลผลิตที่ดีกับเกษตรกรด้วย

สำหรับการเปิดโครงการแปลงสาธิตการปลูกพืชกระท่อมในแปลงของทางบริษัท ในครั้งนี้ ทางบริษัท ได้ให้เกษตรกรลงมือร่วมปลูกด้วยตนเอง ในแปลงที่ทางบริษัทได้จัดเตรียมไว้ เพื่อให้เกษตรกรได้ทำการขุดหลุม แล้วนำต้นกล้าพืชกระท่อมลงหลุมปลูกด้วยตัวเอง เพื่อได้ทราบถึงขั้นตอนวิธีการปลูกอย่างชัดเจน หลังจากเกษตรกรต้องการปลูกพืชกระท่อม ก็สามารถดำเนินการตามแบบที่ทางบริษัท จัดเตรียมขึ้น พร้อมมีอดีตเป็นข้าราชการเกษียณด้านเกษตร ที่เชี่ยวชาญมาเป็นผู้ให้ความรู้แก่เกษตรกร ในครั้งนี้  คอยบอกวิธีตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมแปลง และการปลูกต้นกล้าทุกขั้นตอน ซึ่งมีประสบการณ์ และยังเป็นวิทยากรให้ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ คอบตอบข้อข้องใจแก่เกษตรกรทุกท่าน เมื่อไม่เข้าใจขั้นตอนพื้นที่การปลูกพืชกระท่อม ถามได้ตลอด ตอบจนทุกท่านเข้าใจอย่างชัดเจนทุกขั้นตอน รวมถึงหลังจากนี้หากเกษตรกร ต้องการทราบอะไรหลังกลับไปแล้วสามารถโทรศัพย์สอบถามได้อย่างเป็นกันเอง หากว่างอาจจะลงพื้นที่แก่ผู้ต้องการอีกด้วย

สำหรับพืชการะท่อมมีสรรพคุณมากมายแต่การบริโภคจะต้องเข้าใจหรือขั้นตอน เมื่อใช้ยาพืชกระท่อมใหม่ๆ แล้วอาจจะเกิดอาการหนาวสั่นเวลาครึ้มฟ้าครึ้มฝน ในคนที่รับประทานใบกระท่อมเป็นครั้งแรก อาจจะมีอาการมึนงง คอแห้ง คลื่นไส้อาเจียน หากใช้ในปริมาณมากอาจจะทำให้เกิดอาการเมา เกิดความผิดปกติของกล้ามเนื้อทรงตัว ระบบประสาทรับสัมผัสตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ลดลง เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ในรายที่ใช้มาก ๆ หรือใช้มาเป็นระยะเวลานาน มักจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีขึ้นที่บริเวณผิวหนัง ทำให้มีผิวสีคล้ำและเข้มขึ้น การรับประทานใบกระท่อมไม่ควรรับประทานเกินวันละ 5 ใบ โดยรูดก้านใบออกแล้วเคี้ยวเหมือนการเคี้ยวหมาก และไม่ควรกลืนกากเพราะกากใบเป็นเส้นใยที่ย่อยยาก เมื่อรับประทานบ่อย ๆ อาจทำให้เกิด “ถุงท่อม” ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนแข็งอยู่ในท้องและทำให้ปวดท้องได้

ในใบกระท่อมพบว่ามีสารสำคัญ คือ ไมทราไจนีน (Mitragynine) เป็นสารจำพวกอัลคาลอยด์ ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง คล้ายฝิ่น แต่มีฤทธิ์น้อยกว่าประมาณ 10 เท่า และ 7-hydroxymitragynine พบน้อยมากในใบกระท่อมสดแต่ มีฤทธิ์รุนแรงกว่ากว่ามอร์ฟีน 100 เท่า เมื่อรับประทานใบกระท่อมบางรายอาจทำให้เกิดพิษเฉียบพลัน โดยทำให้ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ชัก ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง ประสาทหลอน สับสน กระสับกระส่าย ปวดศีรษะ เหงื่อออก ความดันโลหิตสูง อาจพบอาการซึมมากในผู้ที่รับประทานใบกระท่อมปริมาณมาก (มากกว่า 15 กรัม ของใบกระท่อม หรือประมาณใบ 10 ใบ ดังนั้นการบริโภคอย่าเกิน 5 ใบ ต่อวัน)

เมื่อหยุดใช้ใบกระท่อมจะทำให้เกิดอาการอยากรุนแรง (Craving) และมีอาการถอน เช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ นอนไม่หลับ หงุดหงิด อ่อนเพลีย ท้องเสีย น้ำมูกไหล แขนขากระตุก ถึงแม้ว่าในปัจจุบันกระท่อมจะไม่ใช่ยาเสพติด และมีการออกฤทธิ์ที่มีประโยชน์ทางยา แต่หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปและติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน ทั้งนี้ยังมีข้อควรระมัดระวังทางกฎหมายที่ควรคำนึงถึง โดยเฉพาะการนำไปใช้ผสมกับสิ่งเสพติดอื่น เช่น “สี่คูณร้อย” การขายน้ำต้มกระท่อมในหอพัก สถานศึกษา รวมถึงจำหน่ายอาหารที่มีส่วนผสมของใบกระท่อมแก่สตรีมีครรภ์และผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี มีความผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้น้ำต้มกระท่อม ชากระท่อม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรต้องขออนุญาตผลิตตามพรบ. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562

ร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ต้องขอใบอนุญาตเพาะปลูก-จำหน่าย โดยมีพื้นที่กำหนดชัดเจน ห้ามจำหน่ายให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ และให้นมลูก ห้ามจำหน่ายใบ น้ำต้มใบกระท่อม อาหารที่ผสมยาเสพติด ห้ามโฆษณาจูงใจ

สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.ดั้งกล่าว ถือเป็นกฎหมายลูก จากร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ…. ที่ปลดล็อกพืชกระท่อม ออกจาก ยาเสพติดประเภทที่ 5 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 24 ส.ค.64 นี้ โดยใช้ควบคุมการปลูก การจำหน่าย และการใช้พืชกระท่อม สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ฉบับล่าสุด เป็นการกำหนดการหลักเกณฑ์การปลูก กาขออนุญาตปลูก และจำหน่าย การใช้ใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยา อาหาร และเครื่องสำอาง รวมถึงการนำเข้า การส่งออก การขาย และการโฆษณา ดังนี้

1.กำหนดนิยาม พืชกระท่อม หมายความว่า พืชซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mitragyna speciosa (Korth.) Havil ส่วนใบกระท่อม หมายความว่า ใบของพืชกระท่อม และให้หมายความรวมถึงสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่สกัดได้จากใบของพืชกระท่อมตามที่ประกาศกำหนด

2.มาตรการควบคุมและกำกับดูแล
2.1) กำหนดให้การปลูกพืชกระท่อม การขาย การนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม เพื่อประโยชน์เชิงอุตสาหกรรม ต้องได้รับใบอนุญาต
2.2) กำหนดอายุใบอนุญาต โดยใบอนุญาตปลูกพืชกระท่อม ใบอนุญาตขายใบกระท่อม มีอายุ 5 ปี ส่วนใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม มีอายุ 1 ปี
2.3) กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาต เช่น ต้องเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยและมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ไม่เป็นผู้เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรืออยู่ระหว่างการถูกพักใช้ใบอนุญาต

3.หน้าที่ของผู้รับใบอนุญาต
3.1) ผู้รับใบอนุญาตปลูกพืชกระท่อม มีหน้าที่ต้องเพาะหรือปลูกในที่ดินหรือสถานที่และพิกัดตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาต
3.2) ผู้รับใบอนุญาตขายใบกระท่อม นำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม มีหน้าที่ต้องจัดให้มีป้ายแสดงว่าเป็นสถานที่ขาย นำเข้า หรือส่งออกใบกระท่อม จัดให้มีฉลากและเอกสารกำกับใบกระท่อม โดยอย่างน้อยต้องระบุแหล่งที่มาของใบกระท่อม คำเตือน หรือข้อควรระวัง

นอกจากนี้ในกรณีที่ใบกระท่อมสูญหาย เสียหาย หรือถูกทำลายต้องแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบ และจัดทำรายงานปริมาณการขาย การนำเข้า หรือส่งออกใบกระท่อม กรณีผู้รับใบอนุญาตเสียชีวิตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ ให้ทายาท หรือผู้ซึ่งได้รับความยินยอมจากทายาทแสดงความจำนงขอดำเนินการตามใบอนุญาตต่อไปได้ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย

4.การคุ้มครองบุคคลและการป้องกันการใช้ใบกระท่อมในทางที่ผิด
4.1) ห้ามผู้ใดขายใบกระท่อม น้ำต้มใบกระท่อม หรืออาหารที่มีใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบแก่บุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี หญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท กรณีมีการขายในสถานศึกษา หอพัก สวนสาธารณะ สวนสัตว์ หรือสวนสนุก หรือขายโดยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ และเร่ขายหรือโดยลักษณะจูงใจ ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท

ห้ามผู้ใดโฆษณาหรือทำการสื่อสารการตลาดใบกระท่อมหรือน้ำต้มใบกระท่อมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจูงใจสาธารณชนให้บริโภคใบกระท่อมหรือน้ำต้มใบกระท่อม

4.2) ห้ามผู้ใดบริโภคใบกระท่อมหรือน้ำต้มใบกระท่อมที่ปรุงผสมกับยาเสพติดให้โทษ ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
4.3) กำหนดให้ผู้ปลูกพืชกระท่อม ขายใบกระท่อม เกินปริมาณที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง หรือนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม โดยไม่มีใบอนุญาต ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

5.กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบ ที่ดินหรือสถานที่เพาะปลูกพืชกระท่อม สถานที่นำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม หรือสถานที่ขายใบกระท่อมในเวลาทำการ หรือเข้าไปในยานพาหนะที่บรรทุกใบกระท่อม เพื่อตรวจสอบหรือควบคุมเท่าที่จำเป็น และในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำความผิด เพื่อตรวจ ค้น ยึด หรืออายัดพืชกระท่อม ใบกระท่อม น้ำต้มใบกระท่อม หรืออาหารที่มีใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบ ได้

อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจาก ร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว คือ การกำหนดมาตรการกำกับดูแลการเพาะหรือปลูกพืชกระท่อม การขาย และการนำเข้าหรือการส่งออกใบกระท่อมเพื่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประชาชนมากที่สุด ตลอดจนกำหนดมาตรการกำกับดูแลการขาย การโฆษณา และการบริโภคใบกระท่อม เพื่อคุ้มครองสุขภาพของบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี และบุคคลกลุ่มเสี่ยงอื่นจากการบริโภคใบกระท่อม









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.