เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปลัด สธ. เผยพบผู้ป่วยโรคร่วม ติดโควิดไม่รู้ตัว แต่ไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิต


18 ก.พ. 2565, 11:41



ปลัด สธ. เผยพบผู้ป่วยโรคร่วม ติดโควิดไม่รู้ตัว แต่ไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิต




วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน​การประชุม​​ศูนย์​ปฏิบัติการ​ฉุกเฉิน​ด้าน​การแพทย์แล​ะสาธารณสุข​กรณี​ โร​คติดเชื้อไ​วรัสโคโรนา​ 2019​ (COVID-19)​ ครั้งที่​ 423/2564​ ผ่านระบบทางไกล กับผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อประเมินและติดตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ​สถานการณ์​โค​วิด​-19​ ประเทศ​ไทย​ พบ​ผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เรื่องจากโอมิครอนมีข้อมูลชัดเจนทั้งในไทยและต่างประเทศว่า แพร่เชื้อได้เร็ว โดยการที่จำนวนติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ก็จะส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยอาการหนัก​ ผู้เสียชีวิต​ มีแนวโน้ม​เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง​ 

ทั้งนี้ สัดส่วนของผู้ติดโควิด-19 ขณะนี้มากกว่า 90% ไม่มีอาการ โดยอีก 3% เป็นผู้ที่มีอาการหนัก อัตราเสียชีวิตต่ำกว่า 0.1% ส่วนความเสี่ยง​ยังเกิดจากการสัมผัส​ใกล้ชิด​กับผู้ติดเชื้​อ​ในครอบครัว​และคนรู้จัก​ขณะทำกิจกรรม​ร่วมกัน​ เช่น​ ทานอาหาร​ร่วมกัน​ เล่นกีฬา​ รวมทั้ง​กิจกรรม​งานบุญ​ งานศพ​ งานแต่งงาน​ ขณะที่ผู้เสียชีวิต​ส่วนใหญ่​ ยังคงเป็น​กลุ่ม​ 608​ ที่ยัง​ไม่ได้​รับวัคซีน​ รวมทั้ง​ที่ยั​งไม่​ได้รับบูสเตอร์โดส​ โดยเฉพาะ​ผู้​ป่วยติดเตียง​ จึงต้องกำชับ​ให้เน้นตรวจคัด​กรอง​หาเชื้อในกลุ่ม​ผู้ดูแล​ รวมทั้ง​กำกับการใช้มาตรการ​ VUCA​ ในศูนย์​ดูแล​ผู้ป่วย​สูงอายุ​อย่าง​เคร่งครัด



นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ​ได้รับรายงาน​ มีผู้ป่วยอาการหนักใส่ท่อช่วยหายใจ​เพิ่มขึ้น​มาก​ในพื้นที่​กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล​ และต่างจังหวัด​พื้นที่​นำร่อง​ท่องเที่ยว​ เช่น​ ภูเก็ต​ อุดรธานี​ เชียงใหม่​ ฯลฯ ซึ่ง​พบผู้​เสีย​ชีวิต​บางราย​ในพื้นที่​กรุงเทพฯ​ ไม่ได้รับรายงาน​การเข้ารักษา​เป็นผู้​ป่วยหนักมาก่อน​ และส่วนใหญ่ไม่ได้รายงานอาการป่วยก่อนจะได้รับการรักษา​ในระบบ​ Co-Ward และบางราย​เป็นการตรวจพบเชื้อ​ในวันที่เสีย​ชีวิต​ด้วย

ปลัด สธ. กล่าวว่า​ พบการระบาดลักษณะ​คลัสเตอร์ในโรงเรียน​ โรงงาน​ สถาน​ประกอบการ​ ตลาด​ และชุมชน​ ร่วมทั้ง​หอพักนักศึกษา​ และ​ แคมป์​คนงาน​ ในการนี้​ต้องเร่งสื่อสาร​ประชาชน​ ต่อการปฏิบัติ​ตนเพื่อ​ลดความเสี่ยง​ต่อการเกิดโรครุนแรง​และสร้างการรับรู้​การติดเชื้อ​โควิด-19​ ให้สามารถ​ดูแล​ตนเองและครอบครัว​​ให้ห่างจากปัจจัย​เสี่ยงที่รับเชื้อ​ ทั้งไปสถานที่เสี่ยง​ หรือร่วมกิจ​กรรม​เสี่ยง รวมถึงเร่งให้คนในบ้านไปรับวัคซีน​

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจนเสียชีวิตแต่ไม่มีการรายงานเป็นผู้ป่วยหนักเข้าระบบ Co-ward มาก่อน และกรณีที่ตรวจพบเชื้อในวันที่เกิดเสียชีวิต เกิดจากสาเหตุใด นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ต้องชี้แจงว่า ผู้เสียชีวิตขณะนี้เป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัวร่วม เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิต เป็นต้น โดยโรคนั้นๆ จะมีความรุนแรงขึ้นตามเวลา และต้องได้รับการรักษาอยู่ต่อเนื่อง


นพ.เกียรติภูมิ กล่าว ผู้มีโรคร่วมอยู่เดิมแล้ว แต่ติดโควิด-19 ที่ไม่มีอาการจึงไม่รู้ว่าติดโควิด แต่พอป่วยหนักด้วยโรคประจำตัวก็มารับการรักษาที่ รพ. พอตรวจหาเชื้อก็เลยรู้ว่าติดโควิดด้วย ดังนั้น ด้วยโรคเดิมที่รุนแรงอยู่แล้วก็ทำให้เสียชีวิตได้ บางกรณีจึงไม่ใช่เพราะเสียชีวิตด้วยโควิด เพราะอาการที่เกิดไม่เกี่ยวกับปอด ระบบทางเดินหายใจที่เกี่ยวกับโควิดเลย ดังนั้น เรากำลังหารือกันว่าต้องรายงานว่า เสียชีวิตจากโควิด หรือโรคประจำตัว แต่ตามหลักต้องระบุว่าสาเหตุจากโควิด

“ทั่วโลกนับแบบนี้ แต่ถ้าเรานับก็อาจจะไม่ถูกต้อง เราจึงอาจต้องแยกออก น่าจะนับแยกเป็นการเสียชีวิตจากโรคร่วม เช่น มะเร็ง เพราะอาการที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากโควิด แต่ถ้ามีอาการหายใจไม่ออก หอบเหนื่อย ก็จะใช้ว่าเสียชีวิตจากโควิด” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

เมื่อถามต่อว่าเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีสาเหตุว่าเตียงไม่พอ ทำให้ผู้ป่วยโรคประจำตัวเข้าไม่ถึงการรักษาหรือไม่ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เตียงเพียงพอแน่นอน เฉพาะเตียงกลุ่มป่วยสีเหลือง สีแดงทั้งประเทศมีแสนกว่าเตียง ตอนนี้ใช้ไป 40% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียว ที่จริงๆ สามารถรักษาที่บ้านได้ (Home Isolation)

“ความรุนแรงคงไม่เกิดที่ไทยประเทศเดียว ทั่วโลกก็พบว่าอัตราป่วยตายลดลงจากเดลต้าตลอด จากอัตรา 2% เหลือ 1.4% ซึ่งไทยเห็นเสียชีวิต 20 รายต่อวันขึ้น เพราะตัวเลขติดเชื้อเพิ่ม แต่เราไม่ได้อยากเห็นตัวเลขเสียชีวิตเพิ่ม ทั้งนี้ อัตราเสียชีวิตของไทยไม่ได้เพิ่มขึ้นในตัวบุคคล ความรุนแรงโรคไม่เพิ่มขึ้น แต่จำนวนเสียชีวิตอาจเพิ่มเพราะฐานติดเชื้อเพิ่มขึ้น” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.