วันที่ 19 ก.พ.65  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย ได้รับแจ้งจากมูลนิธิปอเต็กตึ้ง ว่า เกิดอุบัติเหตุ รถไฟชนกับรถพ่วง  18 ล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย  ที่บริเวณ ม.2 บ้านหนองแหน ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ใกล้โรงไฟฟ้าแก่งคอย  2 จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถไฟขบวนพิเศษ  กรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จำนวน 13 โบกี้ ที่วิ่งรับคนเที่ยวชมเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เที่ยวกลับเข้ากรุงเทพฯ พุ่งชน  รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 83-6290 ปทุมธานี ลูกพ่วง หมายเลขทะเบียน 83-6291 ปทุมธานี พลิกคว่ำ ได้รับความเสียหาย ลากไปไกลร่วม 100 เมตร ส่งผลให้คนขับรถพ่วง และภรรยาที่นั่งมาด้วย ได้รับบาดเจ็บ(ไม่สาหัส)  ทั้ง 2 คน    คนขับรถ 18 ล้อ (ไม่ทราบชื่อ) มีบาดแผลฉีกขาดที่ใต้คาง  และ  น.ส.ยุภา พรหมจุ้ยพะเนา อายุ 25 ปี (ภรรยาคนขับ) มีบาดแผลหัวแตก     ส่วน รถไฟ หัวเครื่องจักรได้รับความเสียหายมาก  ด้านข้างยุบ กระจกหน้าแตก ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ มี ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย  ชื่อ นาย สมชาย ไปรเดชา อายุ 30 ปี  เป็นช่างเครื่องรถไฟ  ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่หน้าอก เนื่องแรงกระแทก  ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย เจ้าหน้าที่ปอเต็กตึ้งเร่งนำส่ง รพ.แก่งคอย ก่อนหน้านี้แล้ว    ส่วนผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยว กว่า 300 คน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ต้องลงมายืนรออยู่ด้านล่าง เพื่อรอการเปลี่ยนถ่าย รถ ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่การรถไฟ จะนำรถโดยสาร 6-8 คันมารับนักท่องเที่ยวกลับสู่กรุงเทพฯ   ในด้านการจราจร ขบวนรถไฟได้จอดปิดกั้นการจราจรทั้ง 2 ฝั่งส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวและสัญจรไปมา ได้รับความเดือดร้อน ต้องเลี่ยง ออกไปใช้เส้นทางอื่นก่อน ส่วนขบวนรถไฟ ทางเจ้าหน้าที่จะทำการนำหัวรถจักรมาลากหัวรถจักรที่ได้รับความเสียหายออกไป และนำหัวรถจักรอีกคันมาลากขบวนรถไฟทั้งหมดเพื่อเปิดการจราจร    เส้นทางดังกล่าวไม่มีราวกั้นทางรถไฟ ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

ทางด้าน  นาย ธนิต มาสีดา    (คนขับรถไฟ) เล่าว่า  ตอนนี้มีคนขับรถ 10 ล้อ บาดเจ็บพอสมควร  เขามาจากฝั่งทางหน้าโรงงานไฟฟ้า 2 จะออกถนนใหญ่  ตนก็เบาและลดความเร็ว เปิดเพลท  จังหวะที่เขาเข้ามารู้ว่าไม่หยุดแล้ว ตนก็ใส่ห้ามล้อฉุกเฉิน แต่ก็หยุดไม่อยู่  มันกระชันชิด เตือนทุกอย่างแล้ว  ตนไม่แน่ใจว่าเขาได้ยินหรือเปล่า  ซึ่งรถฝั่งตรงข้ามเขาก็หยุดกันหมดแล้ว  รถไฟคันนี้เป็นขบวนนำท่องเที่ยว มีผู้โดยสารประมาณ 300 คน มาจากเขื่อนป่าสัก ปลายทางจะเข้ากรุงเทพ  อันที่จริงอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว  ซึ่งจุดนี้มันเป็นจุดอันตราย พนักงาน ส่วนใหญ่เขารู้กันอยู่แล้ว  ก็คือเบา ลดความเร็ว พยายามป้องกันเหตุเต็มที่  แต่ทีนี้รถมันหนัก ถ้าเข้ามาแบบนี้ยังไงมันก็ หยุดไม่ได้  ถ้าหยุดได้ก็ถือว่าดวงดี  มันเป็นพื้นที่ไม่มีไม้กั้น และเป็นเขตชุมชน พนักงานจะรู้ดี พยายามป้องกันเหตุกันทุก คน  แต่อันนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัย และยังมีพนักงานอีก 1 คน  บาดเจ็บเล็กน้อย  ส่วนหัวจักรรถไฟได้รับความเสียหนัก  ตอนนี้ยังติดเครื่องไม่ได้  ส่วนรถ 10 ล้อมากัน 2 คน สามีภรรยา ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน  แต่ผู้ชายน่าจะเจ็บเยอะกว่า  จริงๆบริเวณนี้จะต้องมีเครื่องกั้น  แต่อันนี้ไม่มีเครื่องกั้น ก็ต้องเปิดเพลทบีบเตือน