วันนี้ 20 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ศูนย์เรียนรู้โรงเรียนชาวนา หมู่ 6 ต.หนองสาหร่าย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วยผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯ อาทิ นายศิวโรฒ จิตนิยม นายนริศ เชยกลิ่น นายบุญส่ง ชเลธร มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร และนายวัชระ กรรณิการ์ กรรมการประสานงานพรรคฯ ลงพื้นที่กาญจนบุรี พบปะเครือข่ายร่วมอุดมการณ์สร้างอนาคตไทยกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากและปราชญ์ชาวบ้านจากภาคกลางและภาคตะวันออกประมาณกว่า 20 คน เพื่อแลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดเห็นในการจัดทำยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคเพื่อสร้างอนาคตเศรษฐกิจฐานราก แก้ปัญหาปากท้องประชาชน พร้อมเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ตัวอย่างความสำเร็จการดำเนินงานโครงการเศรษฐกิจฐานรากของเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดกาญจนบุรี มีนายแรม เชียงกาปราชญ์ตำบลหนองสาหร่าย ให้การต้อนรับ

และเมื่อนายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์ พร้อมคณะไปถึงได้เดินเยี่ยมชมร้านจำหน่ายสินค้ากลุ่มชาวบ้านหนองสาหร่ายตามซุ้มต่างๆ เดินไปจนถึงซุ้มที่นำขวดน้ำดื่มที่ทิ้งแล้วนำกลับโดยภูมิปัญญาชาวบ้าน ผลิตเครื่องตัดขวดน้ำเป็นเส้นใยแล้วนำมาผลิตเป็นไม้กวาดและไม้ปัดทำความสะอาด โดยซุ้มกลุ่มนี้ได้บอกฝากท่านสนธิรัตน์  พร้อมคณะถึงต้องหยุดตั้งใจฟังอยู่นาน คือเจ้าของซุ้มทำไม้กวาด ได้บอกฝากกับ นายสนธิรัตน์ ว่า ไม้กวาดนี้สามารถกวาดสิ่งที่ไม่ดีโดยเฉพาะพรรคที่ได้เขี่ยกลุ่มท่านพร้อมตัวท่าน โดยไม่คิดถึงเวลาท่านร่วมกันก่อตั้งพรรคขึ้นมาแม้แค่น้อย และยังย้ำอีกว่าหากมีโอกาสก็ขออย่าได้เอาคนพวกนี้ไปร่วมด้วยเด็ดขาด เพราะเป็นคนไม่ดี ทำเอาสนธิรัตน์ห้วเราะเสียงดังบอกอย่างนี้ต้องเอาไปเป็นที่ปรึกษาพรรค

จากนั้นนายสนธิรัตน์  พร้อมคณะได้เดินเข้าไปร่วมฟังปัญหาจากบรรดานักปราชญ์ชาวบ้านจากในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงได้เดินทางมาร่วมบรรยายถึงปัญหาของชาวบ้านรากหญ้าเพื่อนำปัญหาต่างๆ กลับไปเป็นแนวทางในการดูแลประชาชน ในการจัดทำยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคเพื่อสร้างอนาคตเศรษฐกิจฐานราก แก้ปัญหาปากท้องประชาชน พร้อมเยี่ยมชมตัวอย่างความสำเร็จการดำเนินงานโครงการเศรษฐกิจฐานรากของเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดกาญจนบุรี

ทั้งนี้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในภายหลังว่า วันนี้ทางพรรคสร้างอนาคตไทย และคณะทำงานของพรรค เดินทางมาที่โรงเรียนชาวนาตำบลหนองสาหร่าย ด้วยเจตนาที่ต้องการรับฟังปราชญ์ชาวบ้านจากภาคกลางและภาคตะวันออกประมาณกว่า 20 คน ซึ่งแต่ละท่านเป็นปราชญ์ชาวบ้านที่เป็นที่ยอมรับและมีคุณสมบัติ เป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ และเป็นผู้นำในเรื่องต่างๆที่ทำงานด้านพัฒนาด้านชุมชนและสังคมมาอย่างยาวนาน

การมารับฟังเพื่อนำไปสร้างขบวนในการสร้างนโยบายของพรรค ซึ่งจะเป็นพรรคการเมืองพรรคแรกที่นำนโยบายจากปราชญ์ชาวบ้านที่เป็นผู้รู้จริงในแต่ละด้านและเป็นปัญหามาต่อเนื่องอย่างยาวนาน ในการกำหนดเพื่อสร้างนโยบายที่ตอบรับกับความต้องการของผู้ที่รู้จริงในการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านโดยมีเป้าหมายให้กับชุมชนที่เข้มแข็ง ชุมชนที่อยู่ด้วยวิถีแห่งความสุขตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง นี่คือวัตถุประสงค์ของการเดินทางมาในครั้งนี้

ถามว่าในฐานะเป็นลูกหลานคนเมืองกาญจน์ มีการวางแนวทางพัฒนาบ้านเกิดไว้อย่างไรนั้น เรื่องนี้ตนคิดว่าจังหวัดกาญจนบุรีก็มีปัญหาเหมือนกันกับจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่เกิดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้นการแก้ปัญหาปากท้องเป็นปัญหาใหญ่ไม่ใช่เพียงแค่จังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้นแต่เป็นปัญหาไปทั่วประเทศ

แต่ในจังหวัดกาญจนบุรี การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ต้องเริ่มจากรู้จากปัญหาของชาวบ้าน ไม่ใช่มาจากนโยบายที่กำหนดจากพวกตน การแก้ปัญหาคือต้องเอาผลผลิตที่เกิดขึ้นในจังหวัดที่เราทำได้อย่างเข้มแข็งทำให้มีมูลค่าเพิ่มเติมและสามารถนำไปสู่ตลาดทำให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น บางครั้งอาจจะมีอุปสรรคเราก็อาศัยพลังที่ปราชญ์ชาวบ้านกำลังทำอยู่ ซึ่งจะทำให้ตัวเศรษฐกิจที่เป็นพื้นฐานของฐานรากได้ขยับเขยื้อนขยายตัวออกไป ซึ่งภาพรวมจังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดท่องเที่ยว แล้วจะทำอย่างไรให้จังหวัดศูนย์เป็นกลางด้านการท่องเที่ยวของภาคตะวันตก ซึ่งปัจจุบันนี้ก็เป็นอยู่แล้ว แต่จะต้องสร้างให้เข้มแข็งเพิ่มขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้

อีกหนึ่งเรื่องที่ทางพรรคสร้างอนาคตไทย กำลังดำเนินการก็คือขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมงานขึ้นมาศึกษาในการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของจังหวัดกาญจนบุรี การแก้ปัญหาที่ดินนั้นไม่ใช่แก้ปัญหาแค่การถือครอง แต่จะเป็นการแก้ปัญหาเพื่อเอาที่ดินมาใช้ประโยชน์ เพราะจังหวัดกาญจนบุรีมีที่ดินที่นำไปใช้ประโยชน์ได้น้อยมากเมื่อเทียบกับที่ดินที่มีทั้งหมด ถ้าเราสามารถนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ได้มากจะในรูปแบบใดก็ตาม หากทำได้ก็จะเป็นการสร้างเศรษฐกิจที่ดีให้กับชาวจังหวัดกาญจนบุรี นี่คือสองเรื่องหลักๆที่ทางพรรคจะดำเนินการ ซึ่งจะไปสอดคล้องกับสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้วือการพัศนาโรงงานกระดาษให้เป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวในระดับโลก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการร่วมมือกับทั้งทาง อบจ.กาญจนบุรี รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจระดับประเทศที่กำลังเข้ามาร่วมมือ

ถามว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรควางว่าที่ผู้สมัคร สส. เอาไว้แล้วหรือยัง และจะมีการเปิดตัวผู้สมัครเมื่อไหร่นั้น เรื่องนี้เราจะคัดเลือกผู้ลงสมัครให้ดีที่สุด ตามที่ชาวบ้านต้องการให้เป็นตัวแทนซึ่งเรามีความพร้อมในการเตรียมการอยู่แล้วในการที่จะส่งผู้สมัครในการเลือกตั้งในครั้งต่อไป ถามว่าครั้งนี้จะสู้จริงหรือไม่นั้น หากเราไม่สู้จริงก็คงจะไม่ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา แต่ปัญหาคือเราจะได้รับความไว้วางใจมากที่สุดได้อย่างไร

แต่อย่างอย่างไรก็ตามสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน เป็นสถานการณ์การเมืองที่ไม่มีความมั่นคง และสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และจากการที่ได้ดูผลโพลจากนิด้าโพลแล้ว มีพี่น้องประชาชนเกือบ 60% เรียกร้องขอให้มีการยุบสภา นั่นแสดงให้เห็นว่าประชาชนเกิดความไม่มั่นคงต่อเสถียรภาพต่อรัฐบาลกับสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองนั้นมีความไม่แน่นอนมากขึ้น เพราะเสียงชองประชาชนออกมาเป็นอย่างนั้น ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นพรรคการเมืองจะต้องเตรียมพร้อมกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้น

ถามว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนว่าพรรคสร้างอนาคตไทย จะผงาดได้ สส.จังหวัดกาญจนบุรีทั้ง 5 เขต ในฐานะเป็นคนเมืองกาญจน์ตนก็จะตั้งใจที่จะขอความไว้วางใจและจะร่วมทำงานกับพี่น้องประชาชนเพื่อให้ผู้สมัครของพรรคเป็นที่ไว้วางใจของพี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรีทั้ง 5 เขต