ตำรวจศรีสะเกษ เตรียมส่งอาวุธสงคราม ตรวจหาดีเอ็นเอคนร้าย หลังพบถูกทิ้งในคลอง
9 มิ.ย. 2562, 11:39
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ชาวบ้านได้ไปทอดแหหาปลาที่ห้วยกมด หมู่ 15 ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ และได้พบอาวุธสงครามจำนวนมากบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ย จำนวน 7 กระสอบ และ 4 กล่องเหล็ก ทิ้งอยู่ในน้ำ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุขันธ์ มาทำการตรวจยึดไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งล่าสุด พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.และคณะ ได้มาตรวจติดตามคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งกำชับให้ติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยด่วนที่สุด โดยเชื่อว่าอาวุธสงครามทั้งหมดมีลักษณะทางกายภาพคล้ายกับอาวุธสงครามที่นำเอาไปใช้ในการก่อเหตุรุนแรงความไม่สงบทางการเมือง เมื่อช่วงปี 2553 – 2554 ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.วันชัย ชัยชูโชติ ผกก.สภ.ขุขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนและคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่ รอง ผบ.ตร.มอบหมาย โดยได้ดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายผ่านมา เพื่อนำเอาอาวุธสงครามมาทิ้งไว้บริเวณห้วยกมด ซึ่งจะทำการสรุปผลการดำเนินการโดยด่วนที่สุดภายใน 1 – 2 วันนี้ รวมทั้งได้ทำการตรวจสอบตามแนวเส้นทางจากจุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชา ช่องสะงำ มายังจุดที่พบอาวุธสงครามด้วย เนื่องจากว่ามีระยะห่างจากชายแดน ประมาณ 41 กม.เท่านั้น ซึ่งอาวุธสงครามทั้งหมด ตนจะได้จัดส่งไปที่กรมสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพฯ เพื่อให้ทำการตรวจพิสูจน์หลักฐานความเป็นมาของอาวุธสงครามที่ตรวจยึดได้ โดยจะต้องประสานงานไปยังกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำ จ.ศรีสะเกษ เพื่อขอเคลื่อนย้ายอาวุธสงครามทั้งหมดเสียก่อน ส่วนถุงมือ ถุงปุ๋ย ถุงพลาสติกที่ใช้ในการห่ออาวุธสงครามทั้งหมดนั้น ตนจะจัดส่งไปที่พิสูจน์หลักฐาน 3 จ.นครราชสีมา เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจหาดีเอ็นเอร่องรอยของคนร้ายรายนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งไปยังสถานที่ดังกล่าวข้างต้นในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
ทางด้าน พล.ต.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 (ผบ.พล.ร.6) และผบ.กองกำลังสุรนารี กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการให้หน่วยทหารในสังกัดร่วมกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการตรวจค้นหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ พร้อมทั้งได้สั่งการให้คุมเข้มตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ตลอดแนวที่อยู่ในเขตความรับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ป้องกันไม่ให้มีการแอบลักลอบนำเอาสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาในเขตประเทศไทยได้อย่างเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดได้ทำการตรวจสอบอาวุธสงครามที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดแล้ว ปรากฏว่าได้พบลูกจรวดอาร์พีจี จำนวน 2 ลูก ที่มีการใช้ยิงมาแล้ว แต่ว่ายังไม่ระเบิด และลูกจรวดอาร์พีจี ทั้ง 2 ลูก อยู่ในช่วงที่จะระเบิดได้ตลอดเวลา ดังนั้น เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดจึงได้นำเอาลูกจรวดอาร์พีจีจำนวนดังกล่าวไปทำลายเพื่อความปลอดภัย ซึ่งนับว่าโชคดีที่มีการตรวจพบเสียก่อนที่จะระเบิดขึ้นมา