นายกฯ หารือทูตลาวฯ มุ่งกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันทุกมิติ
22 ก.พ. 2565, 20:42
วันนี้ ( 22 ก.พ.65 ) เวลา 15.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายแสง สุขะทิวง (H.E. Mr. Seng Soukhathivong) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทยที่ได้มีส่วนช่วยกระชับความสัมพันธ์สองประเทศตลอดการดำรงตำแหน่ง ชื่นชมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับสปป.ลาว ซึ่งมีความสนิทสนมเสมือนเป็นญาติพี่น้อง ทั้งนี้ สปป.ลาวเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของไทย ประชาชนของทั้งสองประเทศมีความผูกพันทั้งจากภาษาและวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียินดีเป็นอย่างยิ่งที่นายกรัฐมนตรีพันคำ วิพาวัน มีแผนที่จะเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปีนี้ โดยเห็นว่าจะเป็นโอกาสในการยกระดับความสัมพันธ์ไทย-สปป.ลาว สู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างเป็นทางการ
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทยขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งประจำประเทศไทยมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีครึ่ง พร้อมทั้งขอบคุณนายกรัฐมนตรี รัฐบาลไทย รวมถึงประชาชนชาวไทย ที่ได้ให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก และสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีเสมอมา เอกอัครราชทูตสปป.ลาวฯ ภูมิใจที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสปป.ลาว มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ประชาชนทั้งสองประเทศเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตสปป.ลาวฯ ได้ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนสปป.ลาว จากเหตุอุทกภัย เมื่อปี 2562 ตลอดจนให้ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์และยารักษาโรคโควิด-19 แก่สปป.ลาว ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือที่สำคัญร่วมกัน ดังนี้
- ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้หาแนวทางความร่วมมือเปิดจุดผ่านแดนระหว่างกันอย่างปลอดภัย โดยทั้งสองฝ่ายหวังว่าจะสามารถกลับมาเปิดจุดผ่านแดนได้โดยเร็ว ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศจากผลกระทบของโควิด-19 ตลอดจนประชาชนที่อาศัยตามแนวชายแดนจะได้กลับมาดำเนินวิถีชีวิตตามปกติ
- ด้านแรงงาน ฝ่ายสปป.ลาว พร้อมที่จะส่งแรงงานลาวมาทำงานที่ไทยอย่างถูกกฎหมายอีกครั้ง ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยดูแลและอำนวยความสะดวกเรื่องการต่ออายุการทำงานในไทยโดยไม่ต้องเดินทางกลับสปป.ลาว เพื่อลดค่าใช้จ่ายและการเคลื่อนย้ายแรงงาน พร้อมขอให้มั่นใจว่า ไทยได้ให้การดูแลแรงงานลาวในไทยอย่างเต็มที่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทั้งการเข้าถึงการตรวจ การรักษา และการได้รับวัคซีน
- ความเชื่อมโยง นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสำเร็จของโครงการรถไฟลาว-จีน และหวังว่าจะสามารถเชื่อมต่อกับระบบรางของไทยได้โดยเร็ว ตลอดจนขอให้ฝ่ายสปป.ลาว พิจารณาเรื่องพิธีศุลกากรที่รวดเร็ว ไม่ซ้ำซ้อน และเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อย่างเป็นธรรมที่ท่าบกท่านาแล้งของ Vientiane Logistics Park (VLP) ซึ่งจะช่วยจูงใจให้ผู้ประกอบการไทยใช้บริการการขนส่งสินค้าผ่านรถไฟลาว-จีน มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ฝ่ายสปป.ลาวเร่งพิจารณาเรื่องการพัฒนาเส้นทางหมายเลข 12 (R12) ซึ่งจะช่วยให้เกิดการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของสปป.ลาว ตลอดเส้นทางด้วย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียินดีร่วมมือกับสปป.ลาว ในทุกด้านที่จะเป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่สอดคล้องกับวาระที่ไทยผลักดันในโอกาสการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ APEC โดยเฉพาะโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศอย่างแท้จริง