วันที่ 25 ก.พ. 65 การซื้อขายน้ำมันในตลาดโลก ช่วงหนึ่งของการซื้อขาย น้ำมันดิบสัญญาเบรนต์ปรับขึ้นเหนือ 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 หลังรัสเซียโจมตียูเครน ก่อนแกว่งตัวลดลงในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ปล่อยน้ำมันจากคลังปิโตรเลียมสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ออกมาเพิ่มเติม ได้แก่ 

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ ปิดที่ 92.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ส่วนหุ้นวอลล์สตรีท ผันผวนเช่นกัน

-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 92.07 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,223.83 จุด

-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 63.20 จุด (1.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,288.70 จุด

-แนสแดค เพิ่มขึ้น 436.10 จุด (3.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,473.58 จุด

 ทองคำ แตะระดับสูงสุดรอบ 17 เดือน นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ

-ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 15.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,926.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทางด้านนายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.)ยอมรับว่าหากราคาน้ำมันดิบอยู่ในราคา100ดอลลาร์/บาร์เรล เป็นเวลานานจะส่งผลกระทบทำให้กลไกดูแลราคาดีเซลไม่เกิน30บาท/ลิตรบริหารงานได้ยากเพราะทุกราคาน้ำมัน1ดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นส่งผลต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้น20สต./ลิตร ซึ่งหากราคาอยู่ราว 90-92 ดอลลาร์/บาร์เรล เราจะมีสภาพคล่องดูแลได้ถึงพ.ค.65 ขณะนี้เงินไหลออกรวมดูแลราคาก๊าซหุงต้มราว 5 พันล้าน/เดือน สำนักงานฯ มอนิเตอร์และรายงานกระทรวงพลังงานเพื่อตัดสินใจด้านนโยบายต่อไป