3 พฤติกรรมที่ต้องเปลี่ยนถ้าอยากหลีกเลี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
25 ก.พ. 2565, 14:59
สำหรับใครก็ตามที่อยากจะปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเองให้ห่างไกลจากโรคร้าย ขอบอกก่อนเลยว่าคุณมาถูกที่แล้ว เพราะวันนี้เราได้จัดทำบทความเพื่อบอกต่อ 3 พฤติกรรมที่จะช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่มาให้ทุกคนได้ลองไปอ่านและนำไปปรับใช้กัน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นยังไง? และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าวจะยากมากน้อยสักแค่ไหน? ถ้าพร้อมแล้ว อย่ามัวรอช้า รีบตามไปดูข้อมูลทั้งหมดกันด้านล่างนี้ได้เลย
สาเหตุของการเกิดโรค
ก่อนที่จะพาทุกคนไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ควรปรับเปลี่ยนเพื่อให้ตัวเองห่างไกลจากโรคร้าย เราอยากจะขอพูดถึงสาเหตุของการเกิดมะเร็งประเภทดังกล่าวกันสักนิด โดยในปัจจุบันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ข้อหลักๆ ด้วยกันได้แก่ อายุที่เพิ่มมากขึ้น (ปกติแล้วมักพบโรคดังกล่าวในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป), พันธุกรรม (มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคดังกล่าวมาก่อน) และพฤติกรรมการใช้ชีวิต
3 พฤติกรรมที่ควรปรับเปลี่ยน
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าสาเหตุของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่นั้นมีทั้งปัจจัยที่เราไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เช่น อายุ และพันธุกรรม และปัจจัยที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ (พฤติกรรมการใช้ชีวิต) ซึ่งในวันนี้เราจะขอพูดถึงแนวทางการปรับเปลี่ยนแบบแผนการดำเนินชีวิตเพื่อให้ตัวเราห่างไกลจากโรคร้ายเป็นหลักตามรายละเอียดด้านล่าง ดังนี้
ลดอาหารแปรรูป
สำหรับใครก็ตามที่ชื่นชอบการรับประทานเนื้อแปรรูป เช่น ไส้กรอก, กุนเชียง, แหนม และหมูยอเป็นชีวิตจิตใจ ทางที่ดีเราอยากจะให้ทุกคนพยายามลดปริมาณการรับประทานอาหารประเภทดังกล่าวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากอาหารประเภทนี้มักมีสารไนโตรซามีน (Nitrosamine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งประเภทหนึ่งที่จะทำปฏิกิริยากับร่างกายจนทำให้เกิดอาการต่างๆ ภายในร่างกาย เช่น อาการอักเสบบริเวณอาหาร เป็นต้น
เน้นทานผักและผลไม้มากขึ้น
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้แก่การเพิ่มปริมาณผักและผลไม้ที่ต้องรับประทานในแต่ละวัน โดยสาเหตุที่เราต้องแนะนำกันเช่นนี้ก็เพราะว่าผักและผลไม้นั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและใยอาหาร ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง และช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดียิ่งขึ้น
รับประทานเนื้อแดงในปริมาณที่เหมาะสม
เนื่องจากการนำเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู, เนื้อวัว หรือเนื้อแกะไปผ่านกรรมวิธีการปรุงให้สุกด้วยความร้อนสูง เช่น การย่างหรือการต้ม มักก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีจนทำให้เกิดสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตราย เช่น สารโพลีไซคลิกอโรมติกไฮโดรคาร์บอน (PAH) และสารเฮเทอโรไซคลิกอโรมาติกเอมีน (HAA) ดังนั้นหากเป็นไปได้ เราจึงอยากจะแนะนำให้ทุกคนพยายามทานเนื้อแดงไม่เกิน 100 กรัมต่อวัน และเลือกรับประทานโปรตีนประเภท ถั่ว, เต้าหู้ และไข่เป็นการทดแทน
ก่อนจากกันไปเราอยากจะบอกว่าทั้ง 3 พฤติกรรมที่เราได้พูดถึงไปในข้างต้นนั้นเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เท่านั้น โดยพฤติกรรมอื่นๆ ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคดังกล่าวได้แก่ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ, การนอนหลับให้เพียงพอ และการเลิกบุหรี่และแอลกอฮอล์ เป็นต้น
