ผู้ปกครองนักเรียน รวมตัวถือป้ายขับไล่ "ผอ.ชุมชนบ้านกุดค้า" ส่อทุจริตเงินของกองทุนนักเรียน 3 แสนบาท
9 ก.ย. 2562, 19:00
วันนี้ (9 ก.ย.62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่โรงเรียนชุมชนบ้านกุดค้า ต.ทุ่งฝน อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ผู้ปกครองนักเรียนได้เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าโรงเรียนฯ เพื่อทวงถามกับ นายสุรศักดิ์ กุลวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรณีปลอมลายเซ็นต์ของครูในโรงเรียนไปเบิกเงินของกองทุนนักเรียนที่ นายศรีทัน วิเชียรเครือ อดีตอาจารย์ใหญ่โรงเรียนชุมชนกุดค้าและศิษย์เก่า ได้พากันทำผ้าป่ามาไว้ให้เป็นทุนนักเรียนหายไปจากบัญชีถึง 300,000 บาท นอกจากนี้ ผอ.คนดังกล่าวยังมีเรื่องทุจริตในโรงเรียนอีกหลายเรื่อง โดยผู้ปกครองนักเรียนได้ถือป้ายขับไล่ ผอ. ออกจากพื้นที่และให้ทาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 3 ย้าย ผอ.คนดังกล่าว ออกจากพื้นที่โดยด่วน โดยชาวบ้านพากันร้องตะโกน ผอ.ออกไป เอาคนใหม่มาแทน พร้อมกันนี้มีนักเรียนบางส่วนมาถือป้ายร่วมประท้วง ผอ. กับผู้ปกครองด้วย
ต่อมา นายธนสาร เจริญสุข นายอำเภอทุ่งฝน พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรทิพย์ กูลพฤกษี ผกก.สภ.ทุ่งฝน และนายประเจน ปาประลิต รอง ผอ.สพป.อุดรธานี เขต 3 ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มผู้ปกครองและชาวบ้านเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น และได้เดินเข้าไปในห้องทำงาน ผอ. เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่ นายสุรศักดิ์ ไม่ขอพูด เพียงแต่บอกว่ารอคณะกรรมการมาสอบสวนเท่านั้น
นายประเจน ปาประลิต รอง ผอ.สพป.อุดรธานี เขต 3 ได้ชี้แจงกับตัวแทนชาวบ้านว่า เรื่องที่ชาวบ้านร้องเรียนผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านกุดค้าทำการเบิกเงินกองทุนนักเรียนและทำการปลอมลายเซ็นครูในโรงเรียนดังกล่าวไปเบิกเงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จ.อุดรธานี ออกมาจำนวน 300,000 บาท และทุจริตอีกหลายเรื่องนั้น ทางสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาเขต 3 ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยวันพุธที่ 11 ก.ย.นี้ จะส่งคณะกรรมการมาสอบสวนข้อเท็จจริงที่โรงเรียนทันที ส่วนจะนานแค่ไหนไม่สามารถบอกชาวบ้านได้ และหากพบข้อร้องเรียนมีมูลตามที่ชาวบ้านบอกแจ้งมาทางสำนักงานเขตฯ ต้องดำเนินคดีทางอาญาและฟันวินัยร้ายแรง ผอ.ท่านนี้ด้วย ส่วนที่ชาวบ้านอยากให้ย้าย ผอ. ออกจากโรงเรียนแห่งนี้ นายประเจน บอกว่า ตอนนี้ ผอ. ก็ทำเรื่องย้ายอยู่ ทราบว่าอีกไม่นานคงทราบผล ทางด้าน นายสุรศักดิ์ กุลวงศ์ ผอ.โรงเรียนชุมชนกุดค้า บอกกับตัวแทนชาวบ้านสั้นๆ ว่า ไม่ขอชี้แจงในเรื่องที่ถูกร้องเรียนทั้งหมด จะขอตอบให้กับคณะกรรมการที่มาสอบสวนเท่านั้น และยังบอกอีกว่า ได้ทำหนังสือขอย้ายจากโรงเรียนแห่งนี้แล้ว เพื่อขอย้ายไปอยู่โรงเรียนในเขต อ.ทุ่งฝน ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามเรื่องเงินกองทุนฯ ที่นายสุรศักดิ์ เบิกเงินออกไป 300,000 บาท และกำลังจะพูดชี้แจง แต่ทาง รอง ผอ.สพป.อุดรธานี 3 ห้ามไว้ บอกขอไว้ให้ข้อมูลกับกรรมการ ฯ
นางเต็มใจ วงษ์พิมพ์ศร อายุ 47 ปี ตัวแทนผู้ปกครอง เปิดเผยว่า โรงเรียนชุมชนบ้านกุดค้าเป็นโรงเรียนขยายโอกาส เปิดสอนตั้งแต่อนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 3 ตอนนี้มีนักเรียนอยู่ 216 คน ตั้งแต่ ผอ.คนนี้มารับตำแหน่ง 4 ปี มีทุจริตในโรงเรียนหลายเรื่องมากจนชาวบ้านทนไม่ไหวจริงๆ กับพฤติกรรมของ ผอ. ท่านนั้นที่มีแต่เรื่องทุจริต ตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาเป็น ผอ. ก็มีเรื่องทุจริตเข้ามาทันที แต่ชาวบ้านก็ให้โอกาสหวังปรับเนื้อปรับตัว เพราะก่อนจะมาอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ก็โดนชาวบ้านที่บ้านท่าช่วงขับไล่แล้วก็มีเรื่องทุจริตเงินในโรงเรียนเช่นกัน ส่วนที่ชาวบ้านรวมตัวอยากจะให้ย้าย ผอ. ออกจากโรงเรียนมีหลายเรื่อง เรื่องแรก คือ 1. ผอ. แอบไปเบิกเงินของกองทุนนักเรียนที่ นายศรีทัน วิเชียรเครือ อดีตอาจารย์ใหญ่เมื่อปี 40 และศิษย์เก่าได้ทำผ้าป่ามาให้โรงเรียนได้เงินรวมทั้งหมด 500,000 บาท และนำเงินไปฝากไว้ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู จ.อุดรธานี แต่ ผอ.แอบเบิกเงินมาใช้จำนวน 300,000 บาท และเมื่อชาวบ้านสอบถามก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบว่าเอาเงินมาใช้อะไร โดยจุดประสงค์ของอดีตอาจารย์ใหญ่และศิษย์เก่าต้องการนำดอกเบี้ยที่ฝากเงินต้นไว้ ได้ดอกเบี้ยปีละประมาณ 10,000 บาท มาเป็นทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียน แต่ ผอ. คนนี้ดันไปเบิกเงินต้นในบัญชีและปลอมลายเซ็นของครูอีกคนไปเอาเงินสดออกมาจำนวน 300,000 บาท เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 61
“เงินกองทุนเริ่มจาก ครูศรีทัน วิเชียนเครือ อดีตอาจารย์ใหญ่ ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว มอบเงิน 100,000 บาท เป็นการเริ่มต้นกองทุน เพื่อช่วยนักเรียนที่ขัดสนยากจน จากนั้นครู ผู้ปกครอง ร่วมกันทำผ้าป่าเข้ากองทุนมาต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีเงินอยู่มากกว่า 500,000 บาท แล้วเอาไปฝากไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุดรธานี เอาดอกเบี้ยดอกผล นำมาใช้เป็นประโยชน์ทางการศึกษา เมื่อเกิดเรื่องกรรมการกองทุนฯ ได้ขอตรวจสอบก็พบว่า เงินถูกเบิกออกไป 300,000 กว่าบาท กรรมการจึงไปแจ้งความไว้ เคยเจรจาไกล่เกลี่ยกับทาง ผอ. ก็รับว่าเอาไป"
ต่อมาชาวบ้านได้ล่ารายชื่อไปร้องเรียน ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุ่งฝน และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี ก็มี ผอ.โรงเรียนในกลุ่มฯ มาประชุมเพื่อไกล่เกลี่ย ในที่ประชุม ผอ.ก็ยอมรับว่าเบิกเอาเงินไปใช้ ชาวบ้านยืนยันขอเพียงได้เงินของเด็ก ๆ ค่าอุปกรณ์การเรียนคืน และเงินกองทุนคืน จนวันนี้เวลาผ่านมากว่า 2 เดือนไม่มีอะไรคืบหน้า เคยรับแจ้งจากทาง สพป.อุดรธานี 3 ว่าจะมาพบชาวบ้านหลายครั้ง แต่ก็เลื่อนนัดทุกครั้ง ระหว่างนั้นเอกสารรายชื่อชาวบ้านร้องเรียน ที่มีตราประทับว่าปกปิด กลับถูกนำออกมาได้อย่างไร แล้วใช้รายชื่อมาข่มขู่ชาวบ้านถึงบ้าน ให้ไปถอนการร้องเรียน ไม่เช่นนั้นจะถูกฟ้องร้อง มีชาวบ้านเซ็นถอนร้องเรียนไป 3 ราย
นางเต็มใจ กล่าวอีกว่า ชาวบ้านไม่ได้มาฟ้องร้องเอาผิดใคร มาเพียงเพื่อทวงสิทธิของเราเอง เงินค่าอุปกรณ์การเรียนของเด็ก เงินกองทุนที่ชาวบ้านสะสมมา ที่ ผอ. เคยยืมไปก่อนหน้านี้ และที่แอบเบิกออกไปรวมแล้วกว่า 300,000 บาท รวมทั้งเงินประกันอุบัติเหตุนักเรียนคนละ 150 บาท เอามาคืนให้กับเด็กๆ และโรงเรียน และจนถึงขณะนี้อยากให้ย้าย ผอ. ไปจากโรงเรียน เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่นักเรียนลดลงเรื่อยๆ